Category Archives: การงาน ม.3 ปี58 ง 23105
ใบความรู้ที่ 5.5 เรื่องวิธีการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ ราวตากผ้า โต๊ะคอมพิวเตอร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 รายวิชาการงาน 5 รหัสวิชา ง 23105 ม.3
ใบความรู้ที่ 5.5 เรื่องการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ ราวตากผ้า โต๊ะคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง 23105
(ในหนังสือแบบเรียนการงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หน้า 122-127)
ใบความรู้ที่ 5.4 เรื่องความปลอดภัยในการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 รายวิชาการงาน 5 รหัสวิชา ง 23105 ม.3
ใบความรู้ที่ 5.4 เรื่องความปลอดภัยในการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ รหัสวิชา ง 23105 ม.3
ในการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์อุบัติเหตุอาจจะเกิดขึ้นกับผู้ปฏิบัติงานได้ตลอดเวลา
ซึ่งเป็นผบมาจากความประมาทในการใช้เครื่องมือ การใช้วัสดุ อุปกรณ์การไม่มีสมาธิในการปฏิบัติงาน
การแต่งกายไม่เหมาะสม การหยอกล้อกันระหว่างการทำงาน อัคคีภัย และสภาพแวดล้อมที่ไม่
เหมาะสมในขณะปฏิบัติงานดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินควรติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์
1. สวมเสื้อผ้าให้รัดกุม ก่อนการปฏิบัติงานและขณะปฏิบัติงานเช่นรวบผมให้เรียบร้อย สวมผ้ากันเปื้อน
หรือชุดปฏิบัติงานใช้ผ้าปิดปาก สวมแว่นตานิรภัยและสวมรองเท้ากันกระแทกทุกครั้งไม่ควรสวม
เครื่องประดับ เช่น สร้อยข้อมือ นาฬิกา แหวนเพื่อความปลอดภัยขณะปฏิบัติงาน
2. ปฏิบัติตามคำแนะนำของคู่มือการประกอบผลิตภัณฑ์ คู่มือการใช้เครื่องมือและรายละเอียดของชนิด
ขนาดวัสดุ อุปกรณ์ที่แนบมาอย่างเคร่งครัด
3. ตรวจสอบสภาพความพร้อมในการใช้งานของเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ก่อนการปฏิบัติงาน
ถ้าชำรุดต้องรีบซ่อทแซมก่อนใช้งาน
4. มีสมาธิในขณะปฏิบัติงานและไม่หยอกล้อกันขณะถือเครื่องมือหรือใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือ
ติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์
5. จัดวางเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยไม่วางปนกับเครื่องมือหรือวัสดุอุปกรณ์อื่น
รวมถึงในขณะใช้งานไม่ควรให้คมของเครื่องมือกระทบกันตลอดจนหันคมของเครื่องมือออกจาก
ผู้ปฏิบัติงานและผู้อยู่ใกล้เคียงเสมอ
6. ใช้งานเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับลักษณะงานการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์
7. หากเกิดอุบัติเหตุขณะปฏิบัติงานควรตั้งสติให้ดีแล้วรีบแจ้งครู ผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่ที่อยู่ใกล้เคียง
ใบความรู้ที่ 5.3 เรื่ององค์ประกอบสำคัญในการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 รายวิชาการงาน 5 รหัสวิชา ง 23105 ม.3
ใบความรู้ที่ 5.3 เรื่ององค์ประกอบสำคัญในการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ รายวิชาการงาน 5 ม.3
การติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพ และให้ผลงานที่มีคุณภาพ
มีองค์ประกอบสำคัญดังนี้
1. ผู้ปฏิบัติงานต้องมีความรู้ในเรื่องคุณสมบัติของวัสดุต่าง ๆ อุปกรณ์และเครื่องมือช่างที่ใช้ในการติดตั้ง
และประกอบผลิตภัณฑ์ เพื่อที่จะสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะงาน เช่น การติดตั้งและประกอบ
ชั้นวางของจากเหล็กฉากชนิดน็อกดาวน์ ต้องเลือกไม้ที่มีความหนาและรับน้ำหนักสิ่งของได้ เลือกใช้
ประแจที่มีขนาดเหมาะสมกับนอตในการขันนอตเพื่อติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์
2. ผู้ปฏิบัติงานต้องมีทักษะและความชำนาญในการใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือสำหรับติตั้งและประกอบ
ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว รวดเร็วและปลอดภัย เช่น การประกอบชั้นวางของ
น็อกดาวจากเหล็กฉาก ต้องมีทักษะในการใช้ประแจขันน็อตประกอบโครงชั้นวางของเหล็กให้แน่น
อย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ หลุดขณะขันน็อตและแข็งแรงพอที่จะวางไม้อัดไม่ให้ตกหล่น
3. ผู้ปฏิบัติงานต้องมีความรู้และทักษะในการอ่านแบบจากคู่มือหรือภาพที่แนบมากับผลิตภัณฑ์
เพื่อให้สามารถประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆเข้าด้วยกันให้ถูกต้องและใช้งานได้จริง
4. ผู้ปฏิบัติงานต้องทำงานอย่างเป็นระบบ โดยมีการวางแผนการทำงาน เช่น กำหนดเป้าหมายในการทำงาน
กำหนดวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือให้ตรงกับลักษณะงาน กำหนดวิธีทำงาน ดำเนินตามแผนงานที่วางไว้
และประเมินผลเพื่อหาข้อบกพร่องในการทำงานหรือผลงานที่ทำแล้วปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่อง
ให้สำเร็จลุล่วง ซึ่งการประเมินผลงานทำได้โดยการทดลองใช้และการประเมินผลดำเนินงานเพื่อหา
แนวทางแก้ไขข้อบกพร่องอุปสรรค์หรือปัญหาที่พบในระหว่างการปฏิบัติงาน
การอ่านแบบต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ
1. ประเภทของเส้นในการอ่านแบบ
2. การมองภาพสามมิติและการหมุนชิ้นงาน
3. การอ่านภาพฉายจากแบบ 4. ค่าพิกัดความเผื่อและสัญลักษณ์
5. เส้นให้ขนาดและคำสั่งต่าง ๆในแบบ 6. การกำหนดจุดวัดและข้อควรระวัง
ใบความรู้ที่ 5.2เรื่องประโยชน์ของการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ด้วยตนเอง หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 รายวิชาการงาน 5 รหัสวิชา ง 23105 ม.3
ใบความรู้ที่ 5. 2 เรื่องประโยชน์ของการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ด้วยตนเอง ง 23105 ม. 3
การติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ด้วยตนเองมีประโยชน์ดังนี้
1. ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างช่างติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์
2. เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยได้ฝึกทักษะการปฏิบัติงานช่างและได้ผลิตภัณฑ์
ไว้ใช้สอยไปพร้อมกัน
3. สร้างความเพลิดเพลินให้แก่ผู้ทำ
4. เกิดความภาคภูมิใจในตนเอง เพราะได้ใช้ความรู้และทักษะงานช่างที่มี มาติดตั้งและประกอบ
ผลิตภัณฑ์ได้สำเร็จ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
5. ฝึกความละเอียด รอบครอบ และอดทนในการทำงานให้สำเร็จ
6. นำความรู้เกี่ยวกับการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ไปใช้เป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพได้
ใบความรู้ที่ 5.1เรื่องความหมายของการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 รหัสวิชา ง 23105 ม.3
ความหมายของการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์
การติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ หมายถึงการนำความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติของวัสดุต่าง ๆ
การใช้งานอุปกรณ์และเครื่องมือช่าง การอ่านแบบ กลไกและการควบคุมไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์มาใช้
ในการติดตั้งและประกอบ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้สอยในชีวิตประจำวัน ได้แก่ผลิตภัณฑ์
ชนิดถอดประกอบได้ เช่นราวตากผ้า ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ โต๊ะคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
เช่น หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เครื่องปั่นน้ำผลไม้ เครื่องดูดฝุ่น
วิธีใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดต่าง ๆ
1. หม้อหุงข้าว วิธีใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าอย่างประหยัดพลังงานและปลอดภัยทำได้โดย
1.1 ศึกษาวิธีใช้จากคู่มือแล้วปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
1.2 เมื่อเลิกใช้งานควรถอดปลั๊กออกจากเต้ารับ
2. เครื่องปั่นน้ำผลไม้ให้ประหยัดพลังงานและปลอดภัยทำได้โดย
2.1 ศึกษาวิธีใช้จากคู่มือแล้วปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 2.2 ไม่ควรใช้เกินกำลังและใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
3. เครื่องดูดฝุ่น วิธีใช้เครื่องดุดฝุ่นให้ประหยัดพลังงานและปลอดภัยทำได้โดย
3.1 ศึกษาวิธีใช้จากคู่มือและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
3.2 เมื่อใช้แล้วควรเอาฝุ่นผงในถุงทิ้งทุกครั้งเพื่อจะได้มีแรงดูดดีและไม่กินไฟ
แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียนหน่วยที่ 5 เรื่องการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ (งานช่าง) ง 23105 ม.3
คำสั่ง ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกากบาท (X) ทับข้อที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว
1.การติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ หมายถึงการนำความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติของวัสดุ
ต่างๆ การใช้งานอุปกรณ์และเครื่องมือช่าง การอ่านแบบ กลไกและการควบคุมไฟฟ้า
อิเล็กทรอนิคส์มาใช้ในการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์เพื่อใช้สอยในชีวิตประจำวัน
2.ข้อใดคือประโยชน์ของการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์.
ก. ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างช่างติดตั้งและประกอบผลิตภันฑ์
ข. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สร้างความเพลิดเพลินแก่ผุ้ทำ ความภาคภูมิใจต่อตนเอง
ค. มีความละเอียดรอบคอบและอดทนในการทำงาน และนำความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพ
ง. ถูกทุกข้อ
3.ผลิตภัณฑ์ทีใช้สอยในชีวิตประจำวันที่ติดตั้งและประกอบได้แก่ข้อใด.
ก. ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ ข. หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ค. เครื่องปั่นน้ำผลไม้ ง. ถูกทุกข้อ
4.นักเรียนมีวิธีประหยัดพลังงานและปลอดภัยในการใช้เครื่องดูดฝุ่นออย่างไร.
ก. ไม่ควรใช้เกินกำลัง ข. ไม่ใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
ค. ดูวิธีใช้จากคู่มือและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ง. ถูกทุกข้อ
5.นักเรียนมีวิธีการใช้เครื่องปั่นผลไม้ให้ประหยัดหลังงานและปลอดภัยได้อย่างไร.
(ใช้ตัวเลือกข้อ 4) เฉลยข้อ ง
6.การติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพและให้ผลงานที่มีคุณภาพ
ประกอบไปด้วยองค์ประกอบสำคัญในข้อใด.
ก. ผู้ปฏิบัติงานต้องมีความรู้ในเรื่องคุณสมบัติของวัสดุต่างๆอุปกรณ์และเครื่องมือช่าง
เพื่อที่จะสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะงาน
ข. ผู้ปฏิบัติงานต้องมีทักษะและความชำนาญในการใช้อุปกรณ์และเครรื่องมือติดตั้ง
และประกอบผลิตภัณฑ์เพื่อให้ใช้งานได้อย่างคล่องแคล้ว รวดเร็วและปลอดภัย
ค. ผู้ปฏิบัติงานต้องมีความรู้และทักษะในการอ่านแบบจากคู่มือหรือภาพที่แนบมา
และผู้ปฏิบัติงานต้องทำงานอย่างเป็นระบบโดยมีการวางแผนการทำงานกำหนดเป้าหมาย
ในการทำงาน กำหนดวัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือให้ตรงกับลักษณะงาน ง. ถูกทุกข้อ
7.ถ้านักเรียนจะอ่านแบบต้องมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องใด.
ก. ประเภทของเส้นในการอ่านแบบ การมองภาพสามมิติและการหมุนชิ้นงาน
ข. การอ่านภาพฉายจากแบบ ค่าพิกัดความเผื่อและสัญลักษณ์
ค. เส้นให้ขนาดและคำสั่งต่างๆ ในแบบ การกำหนดจุดวัดและข้อควรระวัง
ง. ถูกทุกข้อ
8.ผู้ปฏิบัติงานการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ภายในบ้าน 3 ขั้นตอน
แบบความคิดขั้นบันไดได้แก่ข้อใด.
ก. ขั้นวางแผนการทำงาน กำหนดเป้าหมาย กำหนดวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมืให้ตรง
กับลักษณะงาน กำหนดวิธีการทำงาน ข. ดำเนินงานตามแผนงานที่วางไว้หรือปฏิบัติงาน
ค. ขั้นประเมินชิ้นงานเพื่อหาข้อบกพร่องในการทำงานหรือผลงาน ง. ถูกทุกข้อ
9.ข้อใดคือแนวทางในการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์ให้มีความปลอดภัย
ผลงานมีคุณภาพผลิตภัณฑ์ไม่เสียหาย.
ก. สวมเสื้อผ้าให้รัดกุมก่อนการปฏิบัติงานและขณะปฏิบัติงานรวบผมให้เรียบร้อย
สวมผ้ากันเปื้อนใส่ชุดปฏิบัติงานใช้ผ้าปิดปากสวมรองเท้ากันกระแทกไม่ควรสวม
สร้อย นาฬิกา แหวน
ข. ปฏิบัติตามคำแนะนำของคู่มือการประกอบผลิตภัณฑ์คู่มือการใช้เครื่องมือ
และรายละเอียดของชนิดวัสดุ อุปกรณ์ที่แนบมาอย่างเคร่งครัดและตรวจสอบ
สภาพการใช้งานของเครื่องมือ มีสมาธิในการปฏิบัติงานและไม่หยอกล้อกัน
ค. จัดวางเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ใช้งานวัสดุอุปกรณ์
ให้เหมาะสมกับงาน หากเกิดอุบัติเหตุขณะปฏิบัติงานควรตั้งสติ ง. ถูกทุกข้อ
10.ราวตากผ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ในการใช้ตากผ้ามีจำหน่ายตามตลาด
ส่วนใหญ่ทำจากวัสดุชนิดใด.
ก. เหล็กชุบโครเมียม ข. เหล็กพ่นสี ค. อะลูมิเนียม ง. ถูกทุกข้อ
11.ใช้เคลือบผิวของเหล็กหรือโลหะชนิดอื่นโดยการชุบด้วยไฟฟ้าทำให้ได้ผิวโลหะ
ที่เป็นมันวาวสีเทาเงินไม่ผุกร่อนใช้เป็นส่วนประกอบของเหล้กกล้าสำรับทำตู้
นิรภัย เครื่องยนต์ เกราะกันกระสุนเครื่องบินไอพ่นและจรวด หมายถึงข้อใด.
ก. โครเมียม ข. สังกะสี ค. เหล็กพ่่นสี ง. อะลูมิเนียม
12.การพ่นสีเหล็กเพื่อป้องกันสนิมต้องเช็ดคราบน้ำมันของเหล็กด้วยทินเนอร์
ให้ผิวเหล็กแห้งและปลอดฝุ่นแล้วใช้แปรงลวดขัดรอยต่อรอยเชื่อมแล้วพ่นสี
กันสนิม 1 รอบ ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วพ่นทับอีก 1 รอบ หมายถึงข้อใด.
(ตัวเลือกข้อ 11) เฉลยข้อ ค เหล็กพ่นสี
13.การติดตั้งและประกอบราวตากผ้าที่ทำจากท่อพีวีซีมีข้อดีอย่างไร.
ก. สวยงาม ข. ประหยัดค่าใช้จ่าย ค. คุณภาพดี ง. หาวัสดุได้ง่าย
14.ข้อใดคือข้อดีของอลูมิเนียม.
ก. แข็งแรงทนทานต่อฝนและแสงแดด ข. ไม่ทำให้เกิดสนิม
ค. ระบายความร้อนได้ดี ทนความร้อนได้ดีคงรูปไม่บิดงอ ง. ถูกทุกข้อ
ใช้ตอบข้อ 15
1.วางแผนติดตั้งและประกอบราวตากผ้า 1.1 กำหนดเป้าหมายในการทำงาน
ต้องการติดตั้งและประกอบราวตากผ้าไว้ใช้งานที่ทำจากท่อพีวีซี
1.2.กำหนดวัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือในการทำงาน ท่อพีวีซี ข้อต่อสามทาง ยางลบ
ฉาก 90 องศา ข้อต่องอสามทาง เลื่อยตัดเหล็ก ปากกาเคมี กระดาษเอ 4 ดินสอ
1.3.1.กำหนดวิธีการทำงาน ดดยการอ่านแบบที่แนบมากับผลิตภัณฑ์หรือเเขียนแบบ
ภาพร่าสามมิติ
1.3.2.ติดดั้งประกอบราวตากผ้าตามแบบที่อ่าน
2.ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้ 3.ประเมินผลการทำงาน ตรวจสอบดุว่าราวตากผ้า
แข็งแรงดีหรือไม่หรือโคลงเคลงไปมาถ้าพบข้อบกพร่องก็ควรถอดออกมาประกอบใหม่
15.ให้นักเรียนเรียงลำดับขั้นตอนการติดตั้งและประกอบราวตากผ้าจากท่อพีวีซี.
ก. 1 2 3 ข. 1 3 2 ค. 2 1 3 ง. 3 2 1
16.โต๊ะคอมพิวเตอร์ที่มีขายตามท้องตลาดนิยมทำมาจากไม้ชนิดใด.
ก. ไม้อัด ข. ไม้พยุง ค. ไม้แดง ง. ไม้ไผ่
17.ไม้ที่สร้างมาจากเศาชิ้นไม้หรือขี้เรื่อยนำมาประสานกันโดยใช้สานเคมีและนำมาบด
ด้วยความดันสูงและมีราคาถูกกว่าไม้จริงแต่แข็งงแรงน้อยกว่าหมายถึงข้อใด.
ก. ไม้เนื้ออ่อน ข. ไม้ปาติเคิล ค. ไม้สัก ง. ไม้ยูคา
18.สกรู ว เรียกอีกชื่อหนึึ่งคือข้อใด.
ก. ตะปูควง ข. ตะปูเกลียว ค. ตะปูเข็ม ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
19.ประเทศแรกที่ใช้ไม้ปาติเคิลคือประเทศใด.
ก. เยอรมันนี ข. สหรัฐอเมริกา ค. แคนนาดา ง. บราซิล
ใช้ตอบคำถามข้อ 20
1.การวางแผนติดตั้งและประกอบโต๊ะคอมพิวเตอร์
1.1กำหนดเป้าหมายในการทำงาน 1.2กำหนดวัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือในการทำงาน
1.3กำหนดวิธีการทำงาน อ่านแบบ ติดตั้งและประกอบโต๊ะคอมพิวเตอร์
2.ปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้
3.ประเมินผลการทำงานตรวจสอบดูว่าชิ้นส่วนทุกชิ้นประกอบกันสนิทหรือไม่เมื่ออกแรง
เขย่าโยกยกโคลงเคลงหรือไม่แล้วทดลองวางอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ดู
20.การติดตั้งและประกอบโต๊ะคอมพิวเตอร์มีวิธีการอย่างไร
ก. 3 2 1 ข. 2 3 1 ค. 1 2 3 ง. 2 1 3
ใบความรู้ที่ 4.4 หน่วยที่ 4 ธุรกิจเพื่อชีวิต เรื่องคุณลักษณะสำคัญของผู้ประกอบธุรกิจ จรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจ ง 23105 ม.3
ใบความรู้ที่ 4.4 เรื่องคุณลักษณะสำคัญของผู้ประกอบธุรกิจ และจรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจ
ในการประกอบธุรกิจประเภทต่าง ๆ ให้ประสบความสำเร็จ (ู้ประกอบธุรกิจต้องมีคุุณลักษณะสำคัญต่อไปนี้
1. มีความรู้ความสามารถในธุรกิจของตน
2. มีความสามารถด้านมนุษยสัมพันธ์
3. มีความสามารถใการติดต่อสื่อสาร
4. มีความคิดสร้างสรรค์
5. มีวิสัยทัศน์มองการณ์ไกล
6. มีความกล้าและเป็นผู้นำ
7. มีความพยายามอดทน
8. มีไหวพริบ
9. รู้จักตนเอง
จรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจ
จรรยาบรรณหมายถึง หลักจริยธรรมที่ผู้หนึ่งพึงปฏิบัติในการประกอบวิชาชีพซึ่งนักธุรกิจควรมีจรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจดังนี้
1. สร้างสรรค์สินค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
2. เคารพและปฏิบัติตามกฏหมาย เช่นกฎหมายคุ้มครองผู้บริดภค กฏหมายประกอบธุรกิจ เสียภาษี
3. ไม่เอาเปรียบลูกจ้างและผู้บริโภค เช่น ให้ค่าแรงที่เหมาะสมกับปริมาณงานหรือความยากง่ายของงาน มีสวัสดิการให้กับลูกจ้างไม่ค้ากำไรกับผู้บริโภคเกินควร
4. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น มีการบำบัดน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำลำคลอง ใช้วัสดุย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
5. สนับสนุนชุมชนช่วยเหลืองสังคม เช่นให้กู้ยืมเงินเปิดโอกาศให้นักศึกษาได้มาฝึกงาน ให้ทุนการศึกษา ช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ
ใบความรู้ที่ 4.3 หน่วยที่ 4 ธุรกิจเพื่อชีวิต เรื่ององค์ประกอบของธุรกิจ หน้าที่ และประโยชน์ของธุรกิจ ง 23105 ม.3
ใบความรู้ที่ 4.3 เรื่ององค์ประกอบ หน้าที่และประโยชน์ของธุรกิจ ง 23105
องค์ประกอบสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจทุกประเภท มีดังนี้
1. คน(Man) เป็นองค์ประกอบที่ทำหน้าที่หลักในการดำเนินงาน ก่อให้เกิดสินค้า และบริการต่าง ๆ ควบคุมและัดการองค์ประกอบอื่น ๆ ให้ธุรกิจดำเนินงานไปในทิศทางซึ่งนำไปสู่เป้าหมายที่คาดหวังไว้
2. เงิน (Money)เป็นองค์ประกอบที่จะนำไปบริหารจัดการต่าง ๆ เช่นซื้อสินค้ามาเพื่อจำหน่ายใช้ในการขนสง ตลอดจนจ้างแรงงานต่าง ๆ จึงต้องมีการนำเงินทุนส่วนตัวหรือเงินทุนที่กู้ยืมมาจากธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆมาจัดสรรให้คุ้มค่าและมีเงินสำรองไว้เพื่ใช้ในสถานการณ์ที่จำเป็น
3. วัสดุหรือวัตถุดิบ(Material) เป็นองค์ประกอบที่จะนำไปผลิตสินค้า ซึ่งต้องเลือกใช้เฉพาะที่มีคุณภาพราคาเหมาะสมปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคและไม่ก่อความเสียหายให้แก่ธุรกิจ
4. เทคโนโลยี(Techmology) เป็นองค์ประกอบที่จะช่วยให้การผลิตสินค้าทำได้อย่างรวดเร็วได้ปริมาณมาก มีมาตรฐานเดียวกัน ตลอดจนมีระบบฐานข้อมูลที่ช่วยให้การเก็บข้อมูลสินค้าและลูกค้าสะดวก ปลอดภัย และง่ายต่อการค้นหา
5. การจัดการ(Management)เป็นองค์ประกอบที่จะทำให้สินค้าและบริการมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพโดยครอบคลุมการจัดการสินค้า ขั้นตอนหรือกระบวนการต่างๆรวมถึงเงินและแรงงาน
6. การตลาด(Marketing) เป็นองค์ประกอบที่จะทำให้การกระจายสินค้าไปถึงและตรกลุ่มเป้าหมาย โดยใช้การโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการตลอดจนมีการส่งเสริมการขายให้สามารถต่อสู้กับธุรกิจอื่นเช่นลดแลกแจกแถม
หน้าที่ของธุรกิจ
หน้าทีจะแตกต่างกันไปตามประเภทธุรกิจซึ่งสามารถกล่าวโดยรวมได้ดังนี้
1. การผลิตสินค้า เป็นหน้าที่การผลิตสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในด้านคุณณภาพและราคา
2. การให้บริการ เป็นหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกสบายในด้านต่างๆดูแลเอาใจใส่ผู้บริโภค
3. การแจกจ่ายและการจัดจำหน่ายสินค้า เป้นหน้าที่ในการกระจายสินค้าให้ไปถึงผู้บริโภคในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างทั่วถึง สรรหา จัดช่องทางการขนส่งต่างๆที่ง่ายต่อการจัดจำหน่าย
4. การจัดซื้อ เป็นหน้าที่ในการจัดซื้อวัตถุดิบ เครื่องมื และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิต การจัดจำหน่ายและการให้บริการซึ่งสิ่งที่จัดซื้อมานั้นต้องมีคุณภาพ ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
5. การเก็บรักษาสินค้า เป็นหน้าที่ในการเก็บรักษาสินค้าให้มิดชิดและปลอดภัยเพื่อรอการนำออกไปจำหน่าย
6. การจัดทำโฆษณา เป้นหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการให้ผู้บริโภครู้จักและเข้าใจเพื่อประกอบการตัดสินใจ
7. การจัดการทางการเงินและบัญชี เป็นหน้าที่ในการจัดหาและบริการเงินทุนให้ได้กำไรสูงสุดรวมถึงจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายที่ครอบคลุมทุกกิจกรรมการเงินและการเสียภาษี
8.การจัดหาทรัพยากรมนุษย์ เป็นหน้าที่ในการสรรหากำลังคนที่มีความสามารถและมีคุณภาพ
ประโยชน์ของธุรกิจทางตรง
1. ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น
2. สินค้าและบริการมีการกระจายออกไปสู่พื้นที่ต่าง ๆได้อย่างทั่วถึง
ประโยชน์ของธุรกิจทางอ้อม
1. สร้างทางเลือกใให้กับผุ้บริโภค
2. ลดปัญหาอาชญากรรม
ใบความรุ้ที่ 4.2 หน่วยที่ 4 ธุรกิจเพื่อชีวิต เรื่องวัตถุประสงค์และประเภทของธุรกิจ ง 23105 ม.3
ใบความรู้ที่ 4.2 เรื่องวัตถุประสงค์ของธุรกิจและประเภทของธุรกิจ ง 23105 ม.3
การประกอบธุรกิจมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินงาน ดังนี้
1. กำไร เป็นเป้าหมายหลักของการประกอบธุรกิจผู้ประกอบธุรกกิจนั้นย่อมหวังผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินมากกว่าจำนวนที่ได้ลงทุนไปเพื่อเป็นรายได้นำไปใช้จ่ายในเรื่องอื่นๆ
2. ให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภคในราคาที่เหมาะสมและสามารถแข่งขันกับองค์กรธุรกิจอื่น ๆได้ถีงแม้ว่าเป้าหมายคือกำไรแต่ผู้ประกอบการไม่ควรเอากำไรเกินควรในยุคที่การแข่งขันธุรกิจมีมากมายหากมีการค้ากำไรเกินควรจะส่งผลให้ธุรกิจขาดทุนผู้บริโภคหันไปใหห้ความสนใจในสินค้าหรือธุรกิจอื่นที่ไม่ค้ากำไรเกินควรดังนั้นการขายสินค้าหรือบริการที่ดีและมีคุณภาพสูงแก้่ผู้บริโภคในราคาที่เหมาะสมจึงจะสามารถแข่งขันกับธุรกิจอื่นได้
3. ความมั่นคงทางธุรกิจ เมื่อธุรกิจได้รับความนิยมและการยอมรับจากผู้บริโภคและคู่ค้าแล้วจะก่อให้เกิดรายได้และความมน่าเชื่่อถือตามมาซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของธุรกิจนั้น
4. ความก้าวหน้าและการเจริญเติบโตของธุรกิจ เมื่อธุรกิจมีความมั่นคงทั้งด้านการเงินและความน่าเชื่อถือ ก็จะสามารถพัฒนาธุรกิจให้เจริญก้าวหน้า ผลิตสินค้าและบริการใหม่ ๆ ออกมาสู่ตลาด ขยายกิจการให้ใหญ่
วัตถุประสงค์หลักของธุรกิจ คือ ความต้องการผลกำไรมากที่สุด ซึ่งแตกต่างจากองค์กรภาครัฐต่าง ๆที่เน้นการให้บริการกับประชาชนโดยไม่หวังผลตอบแทนในขระเดียวกันธุรกิจต้องการกำไรแต่ไม่ได้หมายความว่าจะกอบโกยผลกำไรเพียงอย่างเดียวโดยละเลยคุณภาพ ความรับผิดชอบตลอดจนผลกระทบต่อสังคมอื่นๆเช่นผู้ประกอบการนั้นต้องผลิตสินค้าที่มีคุณภาพจำหน่ายในราคาที่เหมาะสมโดยขั้นตอนการผลิตตลอดจนผลิตภัณฑ์นั้นต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไม่ก่อให้เกิดมลพิษและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
ประเภทของธุรกิจ มีดังนี้
1. ธุรกิจแบ่งตามกิจกรรมการดำเนินงานของธุรกิจนั้น ๆ เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้
1.1 การผลิตสินค้า ธุรกิจที่ดำเนินงานเกี่ยวกับตัวสินค้าหรือผู้ผลิต ได้แก่ ธุรกิจการเกษตร ธุรกิจเหมืองแร่ ธุรกิจอุตสาหกรรม และธุรกิจก่อสร้าง
1.1.1 ธุรกิจการเกษตร ได้แก่การทำนา ทำสวน ทำไร่ ทำการประมง การเลี้ยงสัตว์และการทำป่าไม้
1.1.2 ธุรกิจเหมืองแร่ เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขุดเจาะนำทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ มาใช้เช่ ถ่านหิน ดีบุก น้ำมัน เป็นต้น
1.1.3 ธุรกิจอุตสาหกรรม เป็นธุรกิจการผลตดานอื่น ๆ ทั้งอุตสาหกรรมในครัวเรือนและอุตสาหกรรมขนาดย่อม เช่นงานประดิษฐ์จากวัสดุธรรมาติ การแปรรูปอาหารในท้องถิ่นซึ่งเป็นธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่ที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งใช้แรงงาน เครื่องจักรและเงินจำนวนมาก
1.1.4 ธุรกิจก่อสร้าง เป็นธุรกิจที่นำผลผลิตของอุตสาหกรรม เช่น ดิน หิน ปุนซีเมนต์มาก่อสร้างสิ่งอื่น ๆ เช่น อาคารที่อยู่อาศัย ถนน สะพาน
1.2 การพาณิชย์ ธุรกิจประเภทนี้เปรียบได้เหมือนพ่อค้าคนกลางที่นำสินค้าจากผู้ผลิตมาจำหน่ายต่อให้ผู้บริโภคกลุ่มต่างๆ ได้แก่ ธุรกิจการค้าส่งเช่นห้างสรรพสินค้า ธุรกิจค้าปลีกเช่น ร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านขายของซำ แฟรสไซส์
1.3 การให้บริการ ธุรกิจประเภทนี้เน้นการอำนวยความสะดวกให้กับผุ้บริโภคมากกว่าการจำหน่ายสินค้า ซึ่งแบ่งออกได้ 2 ประเภทดังนี้
1.3.1 ธุรกิจที่ให้บริการด้านการเงิน เช่น สถาบันทางการเงิน และธนาคารต่าง ๆ เป็นต้น
1.3.2 ธุรกิจที่อำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น บริการขนส่งมวลชน การสื่อสาร ร้านเสริมสวย ร้านซัรีด สถานเสริมความงาม สถานบันเทิง
2. ธุรกิจแบ่งตามรูปแบบของการปรกอบการตามกฎหมาย แบ่งได้ 5 ปะเภท ดังนี้
2.1 กิจการเจ้าของคนเดียว เป็นธุรกิจขนาดเล็กที่ดำเนินารและบริหารงานเพียงคนเดียวมีลูกจ้างไม่กี่คนข้อดีคือ ใช้เงินทุนน้อย หาทำเลที่ตั้งได้ง่าย ไม่ยุ่งยากเมื่อเลิกกิจการ กำไรที่ได้เป็นของเจ้าของกิจการเพียงคนเดียวแต่มีข้อเสียคือเจ้าของกิจการต้องรับผิดชอบในหนี้สินเพียงผู้เดียว การขยายกิจการทำได้ยากเพราะมีเงินทุนจำกัดและธุรกิจไม่มั่นคง
2.2 ห้างหุ้นส่วนจำกัด เป็นธุรกิจซึ่งต้องมีบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันลงทุนและเป็นเจ้าของโดยมีวัตถุประสงค์จะแบ่งกำไรร่วมกันและมีการตกลงกันด้วยวาจาหรือลายลักษณ์อักษรการก่ตั้งทำไ้ง่ายมีความมั่นคงทางการเงิน มีประสิทธิภาพและมีการเสี่ยงในการขาดทุนน้อยลงกว่ากิจการเจ้าของคนดียวแต่มีข้อเสียคือการดำเนินกิจการต่าง ๆเป็นไอย่างล่าช้า อาจเกิดความขัดแย้งระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนและต้องรับผิดชอบในหนี้สินไม่จำกดจำนวน ห้างหุ้นส่วนแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนสามัญและห้างหุ้นส่วนจำกัด (ข้อสอบ O-net )
ข้อแตกต่างระหว่างห้างหุ้นส่วนสามัญ และห้างหุ้นส่วนจำกัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ห้างหุ้นส่วนสามัญ และห้างหุ้นส่วนจำกัด มีข้อแตกต่างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีดังนี้
ห้างหุ้นส่วนสามัญ มีลักษณะสำคัญคือ 1. มีผู้เป็นหุ้นส่วนเพียงประเภทเดียว คือ ประเภทไม่จำกัดความรับผิดชอบในหนี้สิน 2. ผู้เป็นหุ้นส่วนมีสิทธิเข้าจัดการกับห้างหุ้นส่วนได้ 3. ทุนที่นำมาเป็นเงินสด สินทรัพย์ต่าง ๆ และแรงงานได้ 4. จดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนก็ได้ 5. เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้องให้ผู้เป็นหุ้นส่วนใช้หนี้จากสินทรัพย์ส่วนตัวได้ 6. เมื่อหุ้นส่วนผู้ใดถึงแก่ความตายหรือลาออกจากห้างหุ้นส่วน หรือล้มละลาย สัญญาเข้าเป็นหุ้นส่วนเป็นอันสิ้นสุดต้องเลิกกิจการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด มีลักษณะสำคัญคือ 1. มีผู้เป็นหุ้นส่วน 2 ประเภท คือประเภทที่ไม่จำกัดความรับผิดชอบ และประเภทที่จำกัดความรับผิดชอบ 2. ผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดชอบไม่มีสิทธิเข้าจัดการกับห้างหุ้นส่วน 3. หุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดชอบลงทุนเป็นแรงงานไม่ได้ 4. ต้องจดทะเบียน และมีสถานภาพเป็นนิติบุคคล 5. เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้ใช้หนี้จากสินทรัพย์ส่วนตัวของผู้เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดชอบ 6. หุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดชอบ ตาย ลาออก หรือล้มละลาย ไม่ต้องเลิกกิจการ |
2.4 สหกรณ์ เป็นธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นด้วยบุคคลตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปร่วมเข้าชื่อกันด้วยความสมัครใจ ดำเนินการโดยยึดหลักประชาธิปไตยเพื่อดำเนินธุรกิจหรือบริการและช่วยเหลือสมาชิกหรือแก้ปัญหาคนกลาง
2.5 รัฐวิสาหกิจ เป็นธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นด้วยทุนรัฐบาลทั้งหมดหรือรัฐบาลมีหุ้นมากกว่าร้อยละ 50 มีข้อดีคือช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นเพราะเป็นแหล่งรายได้ของรัฐและยังควบคุมสินค้าที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแต่มีข้อเสียคือภาคเอกชนหมดโอกาสที่จะลงทุนเพียงผู้เดียวและเงินหมุนเวียนจะลดลงเนื่องจากถูกนำไปลงทุน
ใบความรู้ที่ 4.1 หน่วยที่ 4 ธุรกิจเพื่อชีวิต เรื่องความหมายและความสำคัญของธุรกิจ ง 23105 ม.3
ใบความรู้ที่ 4.1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ธุรกิจเพื่อชีวิต เรื่องความหมายความสำคัญและวัตถุประสงค์ของธุรกิจ ง 23105 ม. 3 เวลา 5 นาที
ตัวชี้วัด
1. ใช้ทักษะในการทำงานร่วมกันอย่างมีคุณธรรม(ง 1.1 ม.3/2)
2. อภิปรายการทำงานโดยใช้ทักษะการจัดการเพื่อการประหยัดพลังงาน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม(ง 1.1 ม.3/3)
สาระการเรียนรุ้
ความหมายและความสำคัญของธุรกิจ
ความรุ้ทั่วไป ในปัจจุบัน งานธุรกิจเกิดขึ้นมากมายหลายประเภท ทั้งธุรกิจที่ส่งเสริมการซื้อ การขาย และแลกเปลี่ยนสินค้า ตลอดจนธุรกิจที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน เช่นร้านสรรพสินค้า ร้านเสริมสวย ร้านล้างอัดรูป บริษัทประกันภัย ธนาคารเป็นต้น
ธุรกิจ(Business) หมายถึงกระบวนการหรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่บุคคลหรือกลุ่มคณะร่วมกันดำเนินการวึ่งเกี่ยวข้องกับการผลิต การซื้อ การขาย หรือแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการต่าง ๆ โดยมุ่งหวังกำไรหรือผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินที่คุ้มค่าจากกระบวนการหรือกิจกรรมนั้นๆ
ความสำคัญของธุรกิจ
ธุรกิจมีความสำคัญญต่อชีวิต สังคม และประเทศ ดังนี้
1. สร้างงานสร้างอาชีพให้กับประชาชน
ในชุมชนใด ๆ หากมีธุรกิจใหม่เกิดขึ้น อัตราการจ้างงานจะเพิ่มตามขึ้นตลอดจนสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบอาชีพ
2. เกิดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
เทคโนโลยี(Technology)คือการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิดประโยชน์ซึ่งก่อให้เกิดวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องจักรกลตลอดจนระบบหรือกระบวนการต่าง ๆที่ช่วยทำให้ธุรกิจเจริญก้าวหน้า การประกอบธุรกิจจะช่วยขับเคลื่อนเทคโนโลยีให้มีความเจริญก้าวหน้าเนื่องจากะุรกิจทุกประเภทจำเป้นต้องใช้เทคโนโลยีเพื่อความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเช่นธุรกิจรับเหมาก่อสร้างลงทุนซื้อและนำเข้าเทคโนโลยีใหม่ ๆเช่นระบบฐานข้อมูลของลูกค้า เครื่อมือช่วยทุ่นแรงในการก่อสร้าง ก่อสร้างรถไฟฟ้า สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินต้องนำเข้าเทคโนโลยีเป็นจุดเริ่มต้นของความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนที่ธุรกิจนำมาสุ่ประชาชน
3. กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศและสร้างเสริมรายได้ให้ภาครัฐ
ธุรกิจก่อให้เกิดการซื้อขาย การหมุนเวียนของสินค้าและบริการต่าง ๆรัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีและนำมาใช้พัฒนาประเทศ