Category Archives: แบบทดสอบการงาน ง 32104 ม.5

แบบทดสอบหน่วยที่ 9 เรื่องการออกแบบและเทคโนโลยี ง 32104 ม.5

คำสั่ง  ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกากบาท(X) ทับข้อที่ถูกที่สุด
1.  การออกแบบและเทคโนโลยี เป็นการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความสามารถ
ของมนุษย์ในการแก้ปัญหาและสนองความต้องการอย่างสร้างสรรค์โดย
นำความรู้มาประยุกต์ใช้กับกระบวนการเทคโนโลยีสร้างสิ่งของเครื่องใช้
วิธีการหรือประสิทธิภาพในการดำเนินชีวิตและกิจกรรมต่างๆของมนุษย์
ข้อมูลใช้ตอบข้อ  2
ก.  ตู้ยามีไฟและมีเสียงเพลง
ข.  การทำฝนเทียม
ค.  คอมพิวเตอร์
2.  เป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่สร้างขึ้นตมกระบวนการเทคโนโลยีช่วยอำนวย
ความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ (เฉลยข้อ  ก   ตุ้ยามีไฟและมีเสียงเพลง)
3.   เป็นวิธีการแก้ปัญหาความแห้งแล้งในพื้นที่ต่าง ๆ (เฉลยข้อ  ข)
4.  เป็นเครื่องใช้ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนและการทำงานให้สะดวก
รวดเร็วได้ผลงานที่สวยงามเป็นระเบียบและน่าสนใจ (เฉลยข้อ  ค)
5.  การพัฒนาสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆต้องคำนึงถึงหลักการวิเคราะห์
ผลิตภัณฑ์เบื้องต้นเพื่อให้มีแนวทางในการสร้างและพัฒนาสิ่งของเครื่อง
ใช้ในจุดประสงค์ใด.
ก.  ความแปลกใหม่   ข.  มีประโยชน์   ประหยัด
ค.  ปลอดภัยต่อการใช้งานและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม   ง.  ถูกทุกข้อ
6.  ผลิตภัณฑ์ทางการออกแบบและเทคโนโลยีหมายถึง สิ่งของเครื่องใช้
ที่จับต้องได้ มีประโยชน์ใช้สอย  มีรูปร่าง  รูปทรง  มีผิวสัมผัสและมีสีสัน
7.  การวิเคราะห์ผลิตภัณพ์เป็นการวิเคราะห์จุดมุ่งหมายของการออกแบบ
วึ่งจะช่วยให้มีแนวทางในการสร้างชิ้นงานที่มีคุณภาพได้
8.  การวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์มีหลักการเบื้องต้นที่ควรพิจารณาคือข้อใด.
ก.  ประโยชน์ใช้สอย   ข.  ความทนทาน  ความสวยงาม
ค.  ราคา  ความปลอดภัย   ง.  ถูกทุกข้อ
9.  ผลิตภัณฑ์ที่ดีต้องมีประโยชน์ใช้สอยตรงตามความต้องการของผู้ใช้
10. ผลิตภัณฑ์ที่ดีต้องต้องมีความสวยงามสดุดตาผู้พบเห็นในเรื่องใดบ้าง.
ก.  สีสัน   ข.  รูปร่าง  รูปทรง    ค.  ขนาดและความสมดุลย์    ง.  ถูกทุกข้อ
11. นักเรียนวิเคราะห์ประโยชน์ใช้สอยของโคมไฟตั้งโต๊ะที่มีตามท้องตลาด
ก.  ใช้ให้แสงสว่างสำหรับการอ่านหนัวสือในเวลากลางคืนได้แต่มีกำลัง
ไฟฟ้าน้อยเกินไป
ข.  ปรับระดับสูง-ต่ำโค้งเอียงของขาตั้งโคมไฟไม่ได้
ค.  การต่อสายไฟปลั๊กไฟไม่เรียบร้อยหลอดไฟกำลังไฟฟ้าน้อย
ง.  ถูกทั้งข้อ  ก  และ ข
12. จากข้อ  11  นักเรียนจะพัฒนาโคมไฟฟ้าตั้งโต๊ะด้านประโยชน์อย่างไร.
ก.  เปลี่ยนชนิดสวิตซ์โคมไฟเป้สวิตซ์ปิดเปิดที่สามารถหรี่ไฟให้ลดความ
สว่างและเพิ่มความสว่างได้ตามความต้องการ
ข.  ปรับระดับความสูงต่ำความโน้มเอียงของโคมไฟได้
ค.  จำหน่ายในราคาที่แพงเนื่องจากวัสดุที่ใช้ในการปรับปรุงราคาแพง
ง.  ถูกทั้งข้อ  ก และ ข
13. ทรัพย์สินทางปัญญญาหมายถึงผลงานอันเกิดจากความคิดสร้างสรรค์
ของมนุษย์เช่นสิ่งประดิษฐ์  การออกแบบ  สิทธบัตร  อนุสิทธิบัตร  ลิขสิทธิ์
เครื่องหมายการค้านอกจากนี้ประเทศไทยยังมีทรัพย์สินทางปัญญา
ประเภทอื่น ๆ  เช่น  แบบผังภูมิวงจรรวม  ความลับทางการค้า  สิ่งบ่งชี้
ทางภูมิศาสตร์  ภูมิปัญญาท้องถิ่น
14. การศึกษาเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาจะทำให้ผู้คิดสร้างสรรค์ผลงา
มีแนวทางในการปกป้องผลงานของตนเอง  ไม่ให้ถูกคัดลอก  ลอกเลียนหรือทำซ่้ำเพื่อประโยชน์ทางการค้า
15.  สิทธิบัตรหมายถึง  หนังสือสำคัญที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์
การออกแบบผลิตภัณฑ์หรือผลิตภัณฑ์อรรถประโยชน์ที่มีลักษณะตามที่
กฏหมายกำหนด
16. การประดิษฐ์หมายถึง ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับลักษณะองค์ประกอบ
หรือกลไกลของผลิตภัณฑ์รวมทั้งกรรมวิธีในการผลิตการรักษาหรือปรับ
ปรุงคุณภาพหรือผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น
17.  การออกแบบผลิตภัณฑ์หมายถึงความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับรูปร่างลักษณะภายนอกของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างไปจากเดิมเช่นการออกแบบ
แก้วน้ำให้มีลักษณะเหมือนดอกไม้
18.  ผลิตภัณฑ์อรรถประโยชน์หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งงว่าอนุสิทธิบัตรจะมี
ลักษณะคล้ายกันกัการประดิษฐ์แต่เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่มีระดับการ
พัฒนาเทคโนโลยีไม่สูงมากนักหรือเป็นการประดิษฐ์คิดค้นเพียงเล็กน้อย
19. กรมทรัพย์สินทางปัญญาให้สืบค้นสิทธิบัตรทางเว็บไซต์  http//
http://www.ipic.moc.go.th  โดยสิทธิบัตรหรืออนุสิทะิบัตรเป็นการคุ้มครอง
การประดิษฐ์คิดค้นหรืออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะตามกฏหมายกำหนด
หากต้องการขอรับการคุ้มครองจะต้องยื่นคำขอรับสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร
พร้อมค่าธรรมเนียมการจดสิทธบัตรและอนุสิทธิบัตร
20. ลิขสิทธิ์  หมายถึงสิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะกระทำการใด ๆเกี่ยวกับงาน
ที่ผู้สร้างได้ทำขึ้นโดยการแสดงตามประเภทงานลิขสิทธิ์ต่าง ๆลิขสิทธิ์
เป็นผลงานที่เกิดจากการใช้สติปัญญาความรู้  ความสามารถ  ความวิริยะ
อุตสาหะในการสร้างสรรค์งานให้เกิดขึ้นซึ่งถือว่าเป็นทรัพย์สินทางปัญญา
ประเภทหนึ่งที่มมีคุณภาพทางเศรษฐกิจดดังนั้นเจ้าของลิขสิทธิ์ควรได้รับ
การคุ้มครองตามกฏหมาย  ลิขสิทธิ์เป็นทรัพย์สินที่สามาถซื้อขายได้
21. ลิขสิทธิ์จะมีได้ในงานต่างๆ  9  ประเภทตามข้อใด.
ก.  งานวรรณกรรม  งานนาฏกรรม  งานศิลปกรรม
ข.  งานดนตรีกรรม  งานโสตทัศนวัสดุ  งานภาพยนต์
ค.  งานสิ่งบันทึกเสียง  งานแพร่เสียงและภาพ  งานอื่นใดอันเป็นงาน
ในแผนกวรรณคดีแผนกวิทยาศาสตร์แผนกศิลปะ   ง.  ถูกทุกข้อ
22.

 

 

 

 

 

 

แบบทดสอบหน่วยที่ 7 เรื่องช่างไฟฟ้าในบ้าน ง 32104 ม.5

คำสั่ง  ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกากบาท (X) ทับข้อที่ถูกที่สุด
1.  ไฟฟ้าเป็นพลังงานที่มนุษย์เราใช้กันทุกวันในรูปแบบของแสงสว่าง
และทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ทำงานได้การศึกษาเกี่ยวกับไฟฟ้าจะช่วย
ให้มีความรู้ในการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย  คุ้มค่าและมีทักษะในการปฏิบัติ
งานไฟฟ้าอย่ามีประสิทธิภาพ
2.  ไฟฟ้าหมายถึงพลังงานชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบของวัตถุธาตุทุก
ชนิดตามข้อพิสูจน์ทางวิทยาศศาสตร์ว่าวัตถุธาตุชนิดต่าง ๆที่มีอยู่ในโลก
ประกอบด้วยอนุภาคเล็ก ๆ เรียกว่าอะตอมในแต่ละอะตอม ในแต่ละอะตอม
ยังประกอบไปด้วย  โปรตรอน  นิวตรอนและอิเล็กตรอนอยู่มากมายโดย
โปรตรอนและนิวตรอนนั้นอยู่นิ่งไม่เคลื่อนที่ส่วนอิเล็กตรอนสามารถเคลื่อน
ที่จากอะตอมหนึ่งไปอีกอะตอมหนึ่งได้ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้ก่อให้เกิดประจุ
เรียกว่ากระแสไฟฟ้าขึ้น
3.  ไฟฟ้าแบ่งออกเป็น  2  ชนิดใหญ่ๆคือข้อใด.
ก.  ไฟฟ้าสถิต    ข.  ไฟฟ้ากระแส   ค.  ไฟฟ้ากระแสตรง  ง.  ถูกข้อ กและ ข
4.  ข้อใดคือความหมายของไฟฟ้าสถิต.
ก.  ไฟฟ้าที่เกิดจากการเสียดสีโดยเมื่อเอาวัตถุบางอย่างมาถูกันจะทำให้
เกิดพลังงานขึ้นซึ่งพลังนี้สามารถดูดเศษกระดาษฟางข้าวเบาๆได้และเรียก
พลังงานที่เกิดขึ้นว่าประจุไฟฟ้าสถิต
ข.  การไหลของอิเล็กตรอนภายในตัวนำไฟฟ้าจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งเช่น
ไหลจากจากแหล่งกำเนิดไฟฟ้าไปสู่แหล่งที่ต้องการใช้กระแสไฟฟ้า
ซึ่งก่อให้เกิดแสงสว่างเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านลวดความต้านทานสูงจะ
ก่อให้เกิดความร้อนและใช้หลักการความร้อนมาประดิษฐ์อุปกรณ์ไฟฟ้า
ค.  เป็นไฟฟ้าที่มีทิศทางการไหลไปในทิศทางเดียวกันตลอดระยะเวลา
ที่วงจรไฟฟ้าเปิดกล่าวคือกระแสไฟฟ้าจะไหลจากขั้วบวกภานในแหล่ง
กำเนิดผ่านจากขั้วบวกจะไหลผ่านตัวต้านทานหรือโหลดผ่านตัวนำไฟฟ้า
แล้วย้อนกลับเข้าแหล่งกำเนิดที่ขั้วลบวนเวียนเป็นทางเดียวตลอด
ง.  เป็นไฟฟ้าที่มีการไหลกลับไปกลับมาทั้งขนาดของกระแสและแรงดัน
ไม่คงที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอคือกระแสจะไหลไปทางหนึ่งก่อนต่อมาก็จะ
ไหลสวนกลับแล้วเริ่มไหลเหมือนครั้งแรกโดยจำนวนลูกคลื่นไฟฟ้ากระแส
สลับที่เปลี่ยนแปลงใน  1 วินาทีเรียกว่าความถี่
5.  ข้อใดคือไฟฟ้ากระแสสลับ. (ใช้ตัวเลือกข้อ 4)  เฉลยข้อ  ง
6.  ข้อใดคือไฟฟ้ากระแสตรง. (ใช้ตัวเลือกข้อ  4)  เฉลยข้อ  ค
7.  ข้อใดคือไฟฟ้ากระแส. (ใช้ตัวเลือกข้อ  4)  เฉลยข้อ  ข
8.  ไฟฟ้ากระแสตรงมีประโยชน์ในข้อใด.
ก.  ชุบโลหะต่าง ๆ    ข.  ใช้ในการทดลองทางเคมี
ค.  ใช้เชื่อมโลหะและติดแผ่นเหล็ก   ง.  ถูกทุกข้อ
9.  ไฟฟ้ากระแสสลับมีประโยชน์ในข้อใด.
ก.  ส่ไปในที่ไกล ๆ    ข.  สามารถแปลงแรงดันให้สูงขึ้นหรือต่ำลงโดยใช้
หม้อแปลง  ใช้กับระบบแสงสว่างได้ดี  ใช้กับเครื่องเชื่อม
ค.  ประหยัดค่าใช้จ่าย  ผลิตง่าย  ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการกำลังมาก
เครื่องอำนวยความสะดวกอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกประเภท  ง.  ถูกทุกข้อ
10. ไฟฟ้ากระแสมี  2  ประเภทคือ.
ก.  ไฟฟ้ากระแสตรง  ข.  ไฟฟ้ากระแสสลับ  ค. ไฟฟ้าสถิต  ง.  ถูกทั้งข้อก ข
11. ไฟฟ้าที่ใช้ตามอาคารบ้านเรือนมีแรงดันสูงกี่โวลต์.
ก.  220  โวลต์   ข.  12,000  โวลต์   ค.   13,000  โวลต์   ง.  14,000 โวลต์
12. ทางเดินของกระแสไฟฟ้าซึ่งไหลมาจากแหล่งกำเนิดผ่านสายไฟ
สะพานไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าหมายถึงข้อใด.
ก.  วงจรไฟฟ้า   ข.  กระแสไฟฟ้าสถิต   เข็มขัดรัดสายไฟฟ้า  ง.  ถูกทุกข้อ
13. วงจรไฟฟ้าแบ่งออกเป็น  2  ประเภทได้แก่ข้อใด.
ก.  วงจรเปิด    ข.  วงจรปิด    ค.  วงจร  อนุกรม    ง.  ถูกทั้งข้อ  ก และ ข
14. เป็นวงจรที่กระแสไฟฟ้าไม่สามารถไหลได้ครบวงจรทำให้เครื่องใช้
ไฟฟ้าหรือโหลดไม่สามารถทำงานได้อาจเกิดจากสายไฟหลุด สายไฟขาด
สายไฟหลวม  สวิตว์ไม่ต่อวงจรปิดสวิตซ์รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุดคือ.
(ใช้ตัวเลือกข้อ  13)  เฉลยข้อ  ก  วงงจรเปิด
15. เป็นวงจรที่มีกระแสไฟฟ้าไหลได้ครบวงจรทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือ
โหลดที่ต่ออยู่ในวงจรนั้นๆทำงานได้ตามปกติ(ใช้ตัวเลือก  13) เฉลยข้อ ข
16. การต่อวงจรไฟฟ้าทำได้  3  วิธีคือ.
ก.  วงจรอนุกรม   ข.  วงจรขนาน    ค.  วงจรผสม    ง.  ถูกทุกข้อ
17. เป็นการนำเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือโหลดหลายๆอันมาต่อเรียงกันเหมือน
ลูกโซ่โดยนำเอาปลายของเครื่องใช้ตัวที่ 1  ไปต่อกับต้นของเครื่องใช้
ไฟฟ้าที่ 2และต่อเรียงกันไปเรื่อย ๆจนหมดจากนั้นต่อเข้าต้นกำเนิดไฟ้าฟ้า
หมายถึงข้อใด. (ใช้ตัวเลือกข้อ  16)  เฉลยข้อ  ก
18. เป็นการนำเอาต้นสายของเครื่องใช้ไฟฟ้าทุก ๆ ตัวมาต่อรวมกันและต่อ
เข้าแหล่งกำเนิดไฟฟ้าที่จุด 1จากนั้นนำปลายทุก ๆ ด้านมาต่อรวมกันและ
นำไปต่อกับแหล่งกำเนิดไฟฟ้าอีกุดหนึ่งเมื่อเครื่องใช้แต่ละตัวต่อกันเรียบ
ร้อยแล้วจะกลายเป้นวงจรย่อยกระแสไฟฟ้าไหลได้หลายทิศทางคือ
(ใช้ตัวเลือกข้อ  16) เฉลยข้อ  ข
19. ข้อดีของการต่อแบบวงจรขนานคือข้อใด.
ถ้าในวงจรมีเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวใดตัวหนึ่งขาดหรือเปิดวงจรเครื่องใช้ไฟฟ้า
ที่เหลือก็ยังสามารถทำงานได้ส่วนมากจะใช้ต่อวงจรในบ้าน
20. ข้อใดคือวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในงานไฟฟ้า.
ก.  สายไฟฟ้า  เข็มขัดรัดสายไฟฟ้า  ข.  กล่องแยกสายไฟ  ตุ้มหรือลูกถ้วย
ค.  อุปกรณ์ตัดตอนทางไฟฟ้า  สวิตซ์ไฟฟ้า  เทปพันสายไฟฟ้า คีม  ไขควง
มีด  ค้อน  สว่าน  หัวแร้งไฟฟ้า  ตะกั่วบัดกรี  เครื่องมือวัดไฟฟ้า
ง.  ถูกทุกข้อ
21. สายไฟฟ้ามี  2  ประเภทคือข้อใด.
ก.  สายเปลือย   ข.  สายหุ้มฉนวน   ค.  สายดำใหญ่   ง.  ถูกทั้งข้อ ก และ ข
22. สายไฟฟ้าที่ไม่มีฉนวนหุ้มมีขนาดใหญ่นิยมใช้กับงานไฟฟ้าแรงสูง
สายไฟฟ้าตามถนนหมายถึงข้อใด.( สายเปลือย)
23. สายไฟฟ้าที่มีฉนวนหุ้มทำด้วยยางไหมพลาสติก(พีวีซี)โดยสายไฟที่
หุ้มฉนวนยางนิยมใช้กับปลั๊กไฟฟ้าที่มีโหลดสูงสายไฟที่หุ้มฉนวนไหม
นิยมใช้กับเตารีดไฟฟ้าที่มีโหลดสูงสายไฟที่หุ้มฉนวนพลาสติกนิยมใช้
ในอาคารบ้านเรือน หมายถึง  สายหุ้มฉนวน
24.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แบบทดสอบหน่วยที่ 7 เรื่องงานใบตอง ง 32104 ม.5

คำสั่ง  ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกากบาท (X) ทับข้อที่ถูกที่สุด
1.  ข้อใดคือพันธุ์กล้วยในประเทศไทย.
ก.  กล้วยหอม  กล้วยน้ำหว้า   ข.  กล้วยหักมุก  กล้วยไข่
ค.  กล้วยเล็บมือนาง  กล้วยตานี   ง.  ถูกทุกข้อ
2.  ข้อใดคือความแตกต่างของกล้วยแต่ละพันธุ์.
ก.  ใบตองกล้วย    ข.  ลำต้นกล้วย    ค.  ผลกล้วย   ง.  ปลีกล้วย
3.  ใบตองที่นิยมนำมาใช้ในงานประดิษฐ์คือใบตองในข้อใด.
ก.  ใบตองกล้วยน้ำหว้า   ข.  ใบตองกล้วยตานี
ค.  ใบตองกล้วยเล็บมือนาง   ง.  ใบตองกล้วยไข่
4.  ข้อใดคือคุณสมบัติของใบตองกล้วยตานี.
ก.  ใบโต  สีเขียวเข้มสวย    ข.  เนื้อละเอียด  นิ่ม  ไม่หนา
ค.  ไม่เปราะแตกง่าย  เหนียวกว่าใบตองชนิดอื่น    ง.  ถูกทุกข้อ
5.  ข้อใดคือประโยชน์ของใบตอง.
ก.  ช่วยทำให้เต่าถ่านรีดผ้าลื่นไม่ติดผ้า   ข.  นำมาใช้ห่ออาหาร  ขนม
ค.  ประดิษฐ์ภาชนะจากใบตอง   ง.  ถูกทุกข้อ
6.  บทประพันธ์เรื่อใดกล่าวถึงว่ามีการใช้ใบตองมาทำบายศรี.
ก.  ขุนช้างขุนแผน   ข.  กาพย์แห่เรือชมเครื่องคาวหวาน
ค.   รำพันพิลาป   ง.  ถูกทุกข้อ
7.  พระราชนิพนธ์เรื่องใดกล่าวถึงการนำใบตองมาประดิษฐ์เป้นกระทงลอย
พระประทีป.
ก.  พระราชพิธี  12   เดือน    ข.  พระราชพิธีเดือน   12
ค.  สี่แผ่นดิน     ง.  ไตรภูมิพพระร่วง
8.  ใครเป็นผู้คิดค้นประดิษฐ์โคมลอยรูปดอกพระกระมุท.
ก.  นางนพมาศ   ข.  นางวันทอง    ค.  นางลีลาวดี   ง.  นางอัปสรสวรรค์
9.  ข้อใดคือความสำคัญของงานใบตอง.
ก.  งานใบตองต่อชีวิตประจำวัน   ข.  งานใบตองต่อการสืบสานวัฒนธรรม
ค.  งานใบตองต่อเศรษฐกิจ งานใบตองต่อสิ่งแวดล้อม  ง.  ถุกทุกข้อ
10. ใบตองที่นิยมนำมาห่ออาหารเป็นส่วนใหญ่คือใบตองชนิดใด.
ก.  ใบตองจากกล้วยตานี    ข.  ใบตองกล้วยน้ำหว้า
ค.  ใบตองกล้วยไข่   ง.  ใบตองกล้วยหักมุก
11. ข้อใดคือคุณสมบัติใบตองที่จะนำมาทำงานประดิษฐ์.
ก.  ใบตองกล้วยตานี  ข.  มีอายุปานกลาง   ค.  สีเขียวแก่   ใบโตเต็มที่
ง.  ถูกทุกข้อ
12. ควรตัดใบตองในเวลาใด.
ก.  เวลาเช้า    ข.  เวลาสาย     ค.  เวลาบ่าย     ง.  เวลาค่ำ
13. เพราะเหตุผลใดในการเลือกใบตองในงานประดิษฐ์จึงเลือกใบตอง
ช่วงกลางใบมาใช้. (เพราะจะมีริ้วเป้นเส้นตรงงานประดิษสวยไม่บิดเบี้ยว)
ในการเช็ดใบตองที่ถูกต้องให้เช็ดจากดคนไปยังปลายริ้วใบตอง
14. ข้อใดคือวัสดุ  อุปกรณ์ ในงานใบตอง.
ก.  กรรไกร  เข็มมมือ   ข.  ด้าย  เข็มหมุด   ไม้กลัดทำจากไม้ไผ่
ค.  ผ้าเช็ดใบตอง  ผ้าขาวบาง  ไม้บรรทัด  ปากคีบ  คัดเตอร์
ง.  ถูกทุกข้อ
15. งานใบตองแบ่งออกได้เป็น  2  ประเภทได้แก่ข้อใด.
ก.  งานใบตองที่ใช้กับขนม  อาหาร  และดอกไม้
ข.  งานใบตองที่ใช้ในงานพิธีและโอกาสพิเศษ
ค.  งานใบตองที่ใช้ในการจำหน่ายเป็นสิินค้าออก
ง.  ถูกทั้งข้อ  ก และ ข
16. ข้อใดคืองานใบตองที่ใช้ในงานพิธีและโอกาสพิเศษ
ก.  กระทงดอกไม้   ข.  บายศรี    ค.  ห่อขนมและอาหาร  ง.  ถูกทั้งข้อ ก  ข
17. บายศรีมีจุดประสงค์ในข้อใด.
ก.  ใช้บูชาเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์  ข.  ใช้ในการทำขวัญเด็กเกิดใหม่
ค.  การทำขวัญนาค  โกนผมไฟ  โกนจุก  การสร้างบ้าน งานไหว้ครู
ง.  ถูกทุกข้อ
18. บายศรีที่นิยมมากที่สุดคือบายศรีปากชาม.

 

 

แบบทดสอบหน่วยที่ 4 เรื่องวิธีการถนอมอาหาร (การใช้วัตถุกันเสียและการใช้รังสี) ง 32104 ม.5

คำสั่ง  ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกากบาท(X) ทับข้อที่ถูกที่สุด
1.  เป็นการถนอมอาหารโดยใช้สารเคมีเติมลงในอาหารตามมาตรฐานที่
กระทรวงสาะารณสุขกำหนดเพื่อหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงการทำงานของ
เอนไซม์และจุลินทรีย์หรือทำปฏิกริยาเคมีในอาหารทำให้อาหารไม่เน่าเสีย
และเก็บรักษาได้นาน หมายถึงการถนอมอาหารในข้อใด.
ก.  การใช้รังสี   ข. การใช้วัตถุกันเสีย   ค.  การใช้ความร้อน  ง.  การใช้เกลือ
2.  สารปรุงแต่งที่นิยมใช้ถนอมอาหารมีดังนี้
2.1  โพแทสเซียมไนเตรดและโพแทสเซียมไนไตร์ใช้กับเนื้อสัตว์ทุกชนิด
2.2  กรดเบนโซอิก  ใช้กับอาหารทุกชนิด
2.3  กรดวอบิคใช้กับอาหารทุกชนิดที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์
2.4  กรดซัลฟูรัส ใช้กับผลไม้แห้ง  ผักแห้งและอาหารอื่นทที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์
และน้ำตาลทราย
3.  การใช้รังสี  เป็นการถนอมอาหารโดยนำอาหารบรรจุในภาชนะที่เหมาะสมไปผ่านรังสีในช่วงเวลาที่กำหนดเพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้อาหาารเน่าเสีย  ฆ่าพยาธิ  ฆ่าแมลงที่ติดมากับบอาหารและยั้บยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อพืชผัก
รังสีที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขให้ฉายในอาหารในปริมาณที่กำหนดไม่สะสมในอาหารได้แก่  รังสีแกมมา  ที่ได้จากโคบอลต์  60หรือซีเซียม  137  อาหารที่นิยมนำมาฉายรังสีได้แก่  เครื่องเทศ  หอมหัวใหญ่  สตรอเบอร์รี่  กล้วยหอม   มะม่วง  กุ้งทะเเล   และเนื้อปุ  อาหารที่ผ่านกการฉายรังสีจะเก็บไว้ได้นานที่อุณหภุมิห้องโดยไม่ต้องเก้บไว้ในตู้เย็น

 

แบบทดสอบหน่วยที่ 4 เรื่องวิธีการถนอมอาหาร(การใช้น้ำตาล) ง 32104 ม.5

คำสั่ง  ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกากบาท(X) ทับข้อที่ถูกที่สุด
1.  เป็นการถนอมอาหารประเภทพืชผักและผลไม้โดยใช้น้ำตาลที่มีความ
เข้มข้นซึ่งมีแรงดันออสโมซีสของน้ำตาลสูงทำให้ซึมผ่านเข้าไปในเนื้อ
ผักและผลไม้ได้ง่ายและมีสภาพไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตขยายพันธุ์
ของจุลิินทรีย์ผักและผลไม้ที่ถนอมด้วยวิธีนี้จึงเก็บไว้ได้นานคือ.
ก.  กาารใช้ความเย็น     ข.  การใช้น้ำตาล
ค.  การหมักดอง     ง.  การใช้วัตถุกันเสีย
2.  การใช้น้ำตาลเพื่ถนอมอาหารมี  2  วิธีคือข้อใด.
ก.  การเชื่อม    ข.  การแช่อิ่ม    ค.  การดองหวาน    ง.  ถูกทั้งข้อ  กและ ข
3. การนำผักหรือผลไม้นำไปต้มในน้ำเชื่อมซึ่งได้จากการต้มน้ำคตาลทราย
กับน้ำจนกระทั่งผักและผลไม้มีลักษณะนุ่มเป็นประกายหมายถึงข้อใด.
(ตัวเลือกข้อ  2)  เฉลยข้อ  ก  การเชื่อม
4.  การเชื่อมมื  2   วิธีคือข้อใด.
ก.  การเชื่อมเร็ว     ข.  การเชื่อแห้ง   ค.  การเชื่อมน้ำ   ง.  ถูกทั้งข้อ กและข
5.  ใช้กับพืชผักผลไม้เนื้อนุ่มที่มีน้ำมากหมายถึงการเชื่อมในข้อใด.
(ตวเลือกข้อ  4)   เฉลยข้อ  ก   การเชื่อมเร็ว
6.  การเชื่อมเร็วมี  2  ลักษณะคือข้อใด.
ก.  ความเข้มข้นของน้ำเชื่อม  10-20  เปอร์เซนต์โดยใช้น้ำตาล  1/2-1 ถ้วย
กับน้ำ4 ถ้วยตวงเคี่ยวเป็นน้ำเชื่อมอย่างอ่อนแล้วใส่ผักผลไม้เชื่อม 1/2ช.ม.
ข.  ความเข้มข้นของน้ำเชื่อม  30-40  เปอร์เซนต์ใช้น้ำตาล  2  ถ้วยตววง
น้ำ 4 ถ้วยเคี่ยวเป็นน้ำเชื่อมแล้วใส่ผักผลไม้ลงเชื่อมต่อประมาณ  1  ช.ม.
ค.  ความเข้มขันของน้ำเชื่อม  50-60  เปอร์เซนต์ใช้น้ำตาล 4  ถ้วยตวง
เคี่ยวเป็นน้ำเชื่อมแล้วใส่ผักผลไม้ลงเชื่อมต่อประมาณ  2  ช.ม.
ง.  ถูกทั้งข้อ  ก  และ  ข
7.  การเชื่อมในความเข้มข้นของน้ำเชื่อม  10-20  เปอร์เซนต์ใช้ไฟอ่อน
ถ้าเวลาเคี่ยวน้อยจะทำให้มีกลิ่นน้ำตาลทรายทำให้อาหารไม่อร่อยและ
เสียง่ายซึ่งการเชื่อมในลักษณะนี้เรียกว่าลอยแก้วนิยมใช้เชื่อมผลไม้ข้อใด.
ก.  ลูกตาล    ข.  สับปะรด  เงาะ     ค.  ลิ้นจี่  แห้ว  ลำไย  กระท้อน  มะม่วง
ส้มโอ  ส้มเขียวหวาน    ง.  ถูกทุกข้อ
8.  ข้อเสียของการเชื่อมเร็วด้วยความเข้มข้นของน้ำตาล 10-20 เปอร์เซนต์
คือข้อใด.
ก.  เก็บได้ไม่นาน  ข.  เก็บค้างคืนไม่ได้  ค.  เก็บไว้ในตู้เย็น  ง.  ถูกทุกข้อ
9.  อาหารดูดน้ำเชื่อมได้ดี  เนื้ออาหารมีความมันเงา ไม่เหี่ยว เมื่อทิ้ง
ให้เย็นน้ำตาลจะไม่ตกผลึกสามารถเก็บได้นาน  1  สัปดาห์หมายถึงข้อใด.
(ใช้ตัวเลือกข้อ  6) เฉลยข้อ  ข  ความเข้มข้นของน้ำเชื่อม 30-40 เปอร์เซน
10. การเชื่อมเร็วในข้อ  9  นิยมเชื่อมพืชผักผลไม้ในข้อใด.
ก.  ฟักทอง  เผือก ข. มันเทศ  กล้วย ค. มันสำปะหลัง  จาวตาล ง. ถูกทุกข้อ
11. การเชื่อมที่ใช้ผักและผลไม้ที่มีเนื้อแน่นมีเส้นใยมากเพราะต้องใช้เวลา
เคี่ยวนานใช้ความเข้มข้นน้ำเชื่อม  60-70  เปอร์เซนต์น้ำตาลทราย  4-6
ถ้วยกับน้ำ 4 ถ้วยตวงหมายถึงการเชื่อมในข้อใด.
(ใช้ตัวเลือกข้อ  3) เฉลยข้อ  ข  การเชื่อมเร็ว
12. การเชื่อมเเร็วขั้นตอนแรกใช้น้ำตาล  1  ถ้วย น้ำ 4  ถ้วยตวงตั้งไฟพอ
เดือดใส่ผักและผลไม้ลงไปเคี่ยวพอสุกเติมน้ำตาลทีละ 1/2 ถ้วยคนให้
ละลายจนหมดน้ำเชื่อมข้นเป็นยางมะตูมอ่อนจึงตักอาหารขึ้นผึ่งบนตะแกรง
มีน้ำตาลเคลือบจากน้ันบรรจุในภาชนะเก้บได้นานนิยมเชื่อมผลไม้ในข้อใด.
ก.  ฟักเขียว  สาเก  มะตูม   ข.  รากบัว  เปลือกส้มโอ
ค.  เปลือกมะนาว  เปลือกแตงโม    ง.  ถูกทุกข้อ
13. การทำให้น้ำเชื่อมเข้มข้นซึมผ่านสู่ผักและผลไม้โดยเพิ่มความเข้มข้น
ของน้ำเชื่อมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆจนผลไม้อิ่มด้วยน้ำเชื่อมหมายถึงข้อใด.
ก.  การเชื่อมเร็ว   ข.  การเชื่อมแห้ง     ค.  การแช่อิ่ม   ง.  การเชื่อมน้ำ
14. ถ้าผลไม้นำมาแช่อิ่มมีรสเปรี้ยวและรสชาติฝาดก่อนำมาแช่อิ่มควร.
ก.  ต้มให้สุก    ข.  แช่น้ำปูนใส   ค.  แช่น้ำเกลือ    ง.  แช่น้ำส้มสายชู
15. ถ้าต้องการให้พืชผักผลไม้ที่แช่อิ่มมีลักษณะกรอบควรทำอย่างไร.
(ใช้ตัวเลือกข้อ  14)  เฉลยข้อ  ข  น้ำปูนใส
16. ถ้าต้องการให้น้ำตาลซึมผ่านได้เร็วและง่ายไม่เปลี่ยนสีควรทำอย่างไร.
ก.  แช่น้ำปูนใส   ข.  แช่น้ำเกลือ
ค.  ลวกนึ่งให้ผลไม้เนื้ออ่อนลง   ง.  แช่น้้ำเปล่า
17. เพราะเหตุผลใดน้ำเชื่อมแรกจึงมีลักษณะเป็นน้ำเชื่อมใสไม่เป็นเข้มข้น
ก.  เพราะพืชผักผลไม้จะมีลักษณะมันวาว
ข.  เพราะพืชผักผลไม้จะไม่แข็งตัวกระด้าง
ค.  เพราะน้ำเชื่อมข้นของเหลวในผักจะไม่ซึมออกมาข้างนอกทำให้ผลไม้
เหี่ยวและหยาบมาก
ง.  เพราะนำ้เชื่อมเข้มข้นจะทำให้น้ำเชื่อมซึมมผ่าานเข้าในพืชผักผลไม้
ไม่ได้
18. ในการทำน้ำเชื่อมด้วยน้ำตาลทรายทำให้น้ำตาลตกผลึกนักเรียนมีวิธี
ป้องกันการตกผลึกของน้ำตาลอย่าางไรบ้าง.
ก.  เติมกลูโคส   ข.  น้ำมะนาว     ค.  กรดซิตริก   ง.  ถูกทุกข้อ
19. การแช่ิ่มมี  2  วิธีคือ.
ก.  การแช่อิ่มชื้น    ข.  การแช่อิ่มแห้ง   ค.  การแช่อิ่มเร็ว   ง.  ถูกทั้งข้อ ก  ข
20. เป็นการเทน้ำเชื่อมราดให้ท่วมผักและผลไม้ทิ้งค้างคืืนไว้วันต่อๆมา
นำน้ำเชื่อมที่แชช่ผักผลไม้มาต้มใหม่น้ำเชื่อมจะเข้มข้นแล้วนำไปเทราด
ให้ท่วมพืชผักและผลไม้อีกทำเช่นนี้จนกว่าผลไม้้จะอิ่มน้ำเชื่อมโดยสังเกต
ได้อย่างไรว่าอิ่มน้ำเชื่อม
ก.  พืชผักผลไม้แข็งและมันวาว   ข.  น้ำเชื่อมจะใสกว่าเดิม
ค.  น้ำเชื่อมจะข้นเหมือนน้ำผึ้ง   ง.  น้ำเชือมจะมีความเข้มลดลง
21.  การแช่อิ่มชื้นเก็บได้ไม่นานเพราะเหตุผลใด.
ก.  เกิดเชื้อรา   ข.  เกิดกลิ่นหมัก   ค.  เกิดความหยาบกระด้าง ง.  เหม็นหืน
22. เป็นการนำผลไม้แช่อิ่มชื้นมาจุ่มในน้ำสะอาดเพื่อล้างน้ำเชื่อม
ข้างนอกออกแล้ววางบนตะแกรงนำไปตากแห้งหรืออบที่อุุณหภูมิ  65.5 c
150F  ปรมาณ  8- 10  ชั่วโมงจนผักผลไม้แห้งไม่ติดมือหมายถึงข้อใด.
ก.  การเชื่อมแห้ง    ข.  การแช่อิ่มชื้น   ค.  การแช่อิ่มแห้ง  ง.  ถูกทุกข้อ

 

 

 

 

 

แบบทดสอบหน่วยที่ 4 เรื่องวิธีการถนอมอาหาร(การใช้ความเย็น) ง 32104 ม.5

คำสั่ง  ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกาากบาท (X) ทับข้อที่ถูกที่สุด
เรื่อง  การใช้ความเย็นและการใช้น้ำตาล
1.  เป็นการถนอมอาหารโดยการลดอุณหภูมิของอาหารให้ต่ำกว่า  10  องศาCเพื่อทำให้การเจริญเติบโตของจุลินทรีย์และกิจกรรมของน้ำย่อย
เอนไซม์เกิดได้ช้าจึงชะลอการเน่าเสียลกอัตราการเปลลี่ยนแปลงทางเคมี
เก็บรักษาวิตามินในอาหารไว้ได้มากกว่าการถนอมอาหารโดยวิธีอื่น
และยืดอายุการเก็บรักษาได้ในระยะหนึ่งหมายถึงการถนอมอาหารในข้อใด.
ก.  การทำให้อาหารแห้ง    ข.  การรมควัน
ค.  การใช้ความร้อน    ง.  การใช้ความเย็น
2.  การใช้ความเย็นในการถนอมอาหารมี  2  วิธีคือ.
ก.  การแช่เย็น     ข.  การแช่เยือกแข็ง
ค.  การลดอุณหภุมิ   ง.  ถูกทั้งข้อ  ก และ ข
3.  เป็นการเก็บอาหารไว้ที่อุณหภูมิ  1   องศาcถึง 8  องศาcในตู้เย็นหรือ
ในถังน้ำแข็งเพื่อลดอุณหภูมิอาหารโดยที่น้ำในอาหารไม่แข็งตัวและมัก
จะะใช้ควบคู่กับการถนอมอาหารวิธีอื่นเช่นการหม้ก  การฉายรังสีคือ
(ใช้ตัวเลือกข้อ  2)  เฉลยข้อ  ก  การแช่แข็ง
4.  ผลิตภัณฑ์ที่นิยมถนอมอาหารโดยวิธีการแช่แข็งคือ
ก.  นมพลาสเจอร์ไรซ์    ข.  น้ำผลไม้พลาสเจอร์ไรซ์
ค.  ผลไม้สดต่าง ๆ         ง.  ถูกทุกข้อ
5.  เป็นการเก็บอาหารไว้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาc ในช่องแช่แข็งในตู้เย็น
หรือห้องเย็นที่ควบคุมอุณหภูมิได้ใช้น้ำแข็งแห้งหรือแช่ในไนโตรเจนเหลว
เพื่อให้น้ำในอาหารอยู่ในสภาพเป็นน้ำแข็งจุลินทรียืไม่สามารถนำไปใช้
ประโยชน์ได้หมายถึงการถนอมอาหารวิธีใด.
(ใช้ตัวเลือก  ข้อ  2) เฉลยข้อ  ข  การแช่เยือกแข็ง
6.  ผลิตภัณฑ์ในการถนอมอาหารโดยการใช้ความเย็นได้แก่
ก.  อาหารทะเล    ข.  ขนมจีบ    ค.  เกี๊ยว  มันฝรั่ง   ง.  ถูกทุกข้อ

 

 

 

แบบทดสอบหน่วยที่ 4 เรื่องวิธีการถนอมอาหาร(การใช้ความร้อน) ง 32104 ม. 5

คำสั่ง  ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกากบาท(X) ทับข้อที่ถูกที่สุด
เรื่อง  การถนอมอาหารโดยการใช้ความร้อน
1.  การใช้ความร้อนเป็นการถนอมอาหารโดยใช้ความร้อนทำลายจุลินทรีย์
น้ำย่อยเอนไซม์ที่มีอยู่ตามธรรมชาติในอาหารแต่จะทำให้สารอาหารเปลี่ยน
สภาพไปคือสารอาหารชนิดใด.
ก.  โปรตีน     ข.  ไขมัน    ค.  คาร์โบไฮเดรต    ง.  เกลือแร่และวิตามิน
2.  การใช้ความร้อนเพื่อการถนอมอาหารแบ่งตามอุณหภูมิที่ใช้ได้เป็น
3  ระดับคือข้อใด.
ก.  การใช้ความร้อนในระดับอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเดือดหรือพลาสเจอรไรซ์
ข.  การใช้ความร้อนระดับอุณหภุมิจุดเดือด
ค.  การใช้ความร้อนระดับอุณหภูมิสูงกว่าจุดเดือดหรือสเตอริไรซ์
ง.  ถูกทุกข้อ
3.  การใช้ความร้อนอุณหภูมิ  60-85  C(140-185 F) ความร้อนระดับนี้
สามารถยับยั้งการทำงานของน้ำย่อยเอนไซม์ทำลายจุลินทรีย์ได้ไม่ทำให้
อาาหารจับตัวเป็นก้อนและเกิดการเปลี่ยนแปลงคุณค่าทางอาหารน้อย.
(ใช้ตัวเลือกข้อ 2)  เฉลยข้อ   ก  ใช้ความร้อนระดับต่ำกว่าจุดเดือด
4.  ผลิตภัณฑ์ที่ใช้วิธีการทำนอมอาหารในข้อ  3 คือผลิตภัณณฑืใดบ้าง.
ก.  นม     ข.  น้ำชา     ค.   น้ำผลไม้    ง.  ถูกทุกข้อ
5.  การพลาสเจอร์ไรซ์ทำได้  2  วิธีคือ
ก.  ใช้ความร้อนต่ำประมาณ  60  องศาc นาน  30  นาทีแล้วทำให้เย็นทันที
ข.  ใช้ความร้อนสูง  72  องศาc นาน  15  วินาทีแล้วทำำให้เย็นลงทันที
ค.  ใช้ความร้อนสูง  100  องงศาc นาน  15  นาทีแล้วทำให้เย็นลงทันที
ง.  ถูกทั้งข้อ  ก และ  ข
6.  การใช้ความร้อนที่อุณหภูมิ  100  องศาc  212 องศาFความร้อนในระดับ
นี้สามารถทำลายจุลินทรีย์ได้เกกือบทุกชนิดเป็นการใช้ความร้อนในการ
ถนอมอาหารอยู่ในระดับใด. (ตัวเลือกข้อ 2) เฉลยข้อ ข  ระดับจุดเดือด
7.  ผลิตภัณฑ์ที่ถนอมอาหารโดยวิธีตามข้อ 6 คือ.
ก.  แยม     ข.  เจลลี่    ค.  นม      ง.  ถูกทั้งข้อ  ก และ ข
8.  อุณหภุมิที่ใช้สูงกว่า  100  องศาcขึ้นไปความร้อนระดับนี้สามารถให้
อาหารปราศจากเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคและทำลายุลินทรีย์
หรือสปอร์ที่เป็นสาเหตุของการเน่าเสียของอาหารทุกชนิดสามารถเก็บไว้
ในอุณหภูมิปกติโดยไม่แช่เย็นได้แก่การถนอมอาหารในระดับใด.
(ตัวเลือกข้อ  2) เฉลยข้อ  ค  สเตอร์ริไรซ์
9.  ผลิตภัณฑ์ถนอมอาหารโดยวิธีการสเตอร์ริไรซ์คือ
ก.  อาหารกระป๋อง    ข.  นม  ยู  เอช ที(UHT)   ค.  น้ำผลไม้  ง.  ถูกทั้งก ข

 

 

 

แบบทดสอบหน่วยที่ 4 เรื่องวิธีการถนอมอาหาร(การรมควัน) ง 32104 ม.5

คำสั่ง   ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกากบาท (X) ทับขัอที่ถูกที่สุด
เรื่อง  การถนอมอาหารโดยวิธีรมควัน  ง 32104  ม. 5  เวลา  5   นาที
1.  เป็นการถนอมอาหารดดยใช้ความร้อนคู่กับการใช้ควันไฟหมายถึงข้อใด.
ก.  การตากแห้ง   ข.  การรมควัน    ค.  การใช้ความร้อน ง.  การใช้ความเย็น
2.  การถนอมอาหารโดยวิธีรมควันจะใช้ควันไฟเพื่อให้เนื้อสัตว์และ
ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์มีสีกลิ่นรสดีในควันไฟมีสารในข้อใด.
ก.  ฟีนอล     ข.  ฟอร์มัลดีไฮด์     ค.  ออกซิเจน   ง.  ถูกทั้งข้อ  ก และ ข
3.  ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ที่ถนอมอาหารโดยวิธีรมควันได้แก่ข้อใดบ้าง.
ก.  แฮม    ข.  ไส้กรอก    ค.  เบคอน    ง.  ถูกทุกข้อ
4.  ในต่างประเทศจะได้ควันไฟมาจากการเผาไหม้ต้นไม้ที่ไม่มียางได้แก่
ก.  ต้นโอ๊ก    ข.  ต้นแอปเปิ้ล    ค.  ต้นพลับ  ต้นเมเปิ้ล   ง.  ถูกทุกข้อ
5. การรมควันเนื้อสัตว์เพื่อถนอมอาหารมี  2  วิธีคือ
ก.  การรมควันเย็น    ข.  การรมควันร้อน   ค.  การรมควันอุ่น  ง.  ถูกข้อ ก  ข
6.  การรมควันที่ใช้อุณหภูมิไม่สูงไม่เกิน  45  องศศาเซลเซียสใช้เวลา
ในการรมควันนาน  7-14  วันโดยนำเนื้อสัตว์วางบนตะแกรงลวดแครร่ไม้
หรือแผ่นโลหะข้างใต้สุุมไฟดดยใช้ขี้เลื่อยคลุมกองไฟหมาายถึง
(ใช้ตัวเลือกข้อ 5)  เฉลยข้อ  ก  การรมควันเย็น
7.  ในประเทศไทยนิยมใช้ขี้เลื่อยไม้เนื้อแข็งและวัสดุในข้อใด.
ก.  ไม้สัก   ข.  ซังข้าวโพด   ค. กากอ้อย    ง.  ถูกทุกข้อ
8.  เป็นการรมควันในตู้รมควันในถังโดยใช้อุณหภูมิสูงตั้งแต่  60 ถึง 120
องศาเซลเซียลใช้เวลาในการรมควัน  3-4  ชั่วโมงแขวนเนื้อสัตว์ไว้ใกล้ๆ
กับไฟที่รมควันในระบบปิดป้องกันไม่ให้ควันกระจายออกไปภายนอกทำ
การรมควันจนกระทั่งงอาหารสุกสามารถรับประทานได้จึงเก็บในอุณหภูมิต่ำ
จะเก็ยไว้เป็นระยะเวลานานหมายถึงการรมควันในข้อใด.
(ตัวเลือกในข้อ  5)  เฉลยข้อ  ข  การรมควันร้อน
9.  ข้อใดต่อไปนี้คืออาหารรมควัน.
ก.  ไส้กรอกรมควัน    ข.  เนื้อรมควัน    ค.  แฮมรมควัน  ปลาช่อนรมควัน
10. ปลาช่อนรมควัน
วัสดุ    ปลาช่อน  3  ตัว น้ำหนัก  1  กิโลกรัม  เกลือป่น  150  กรัมน้ำต้ม 850
อุปกรณ์  มีด  เขียง   ชามผสม  ตะแกรงหรือกระด้ง  เครื่องชั่ง  ตู้อบรมควัน
วิธีทำ    1.  ขอดเกล็ดแล้วล้างเมือกที่ตัวปลา  ตัดหัวผ่าท้องเอาไส้ออก
2.  แล่เนื้อปลาเป็นชิ้นตามยาวของตัวปลาหรือผ่าแบะออก
3.  แช่ปลาในน้ำเกลือที่เตรียมไว้โดยให้น้ำเกลือท่วมปลา  15  นาที
4.  ยกปลาขึ้นตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ  30  นาที
5.  หลังจากนั้นนำไปอบในตู้อบรมควัน  65  องศานาน  2-3 ช.ม.
โดยใช้ชานอ้อย  ซังข้าวโพดแห้งเป็นเชื้อเพลิงจะได้ปลาช่อนรมควันที่มี
สีเหลืองทอง
6.  นำออกจากตู้รมควัน  ผึ่งไว้ให้เย็นเก็บใส่กล่องพลาาสติก

 

 

 

แบบทดสอบหน่วยที่ 4 เรื่องวิธีการถนอมอาหาร ง 321104 ม.5

คำสั่ง  ให้นักเรียนทำเครื่องหมายกาากบาท  (X) ทับข้อที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว
การถนอมอาหารโดยวิธี  การทำให้อาหารแห้ง
1.  ข้อใดกล่าวถึงการถนอมอาหารโดยการทำให้อาหารแห้งได้ถูกต้อง.
ก.  เป็นการถนอมอาหารโดยกำจัดน้ำที่อยู่ในอาหารให้ได้มากที่สุดเพื่อให้จุลินทีย์เจริญเติบโตช้าลง
ข.  เป็นการถนอมอาหารโดยใช้ความร้อนควบคู่ไปกับการใช้ควันไฟ
ค.  เป็นการถนอมอาหารโดยใช้ความร้อนในการทำลายจุลินทรีย์หรือน้ำย่อยเอนไซม์ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ
ง.  เป็นการถนอมอาหารโดยลดอุณหภูมิให้ต่ำกว่า  10  องศาเซนเซียล
2.  การทำให้อาหารแห้งมี  2  วิธีใหญ่ๆคือข้อใด.
ก.  การทำให้อาหารแห้งโดยธรรมชาติ
ข.  การทำให้อาหารแห้งโดยอาศัยวิะีกลเข้าช่วย
ค.  การทำอาหารให้แห้งด้วยการตากแห้ง
ง.  ข้อ  ก  และ  ข  ถูก
3.  นายภูมิทำเนื้อแห้งโดยอาศัยแสงอาทิตย์และผึ่งลมควบคู่กันไปกับ
การใช้เกลือในการหมักอาหารหมายถึงการทำอาหารให้แห้งโดยวิธีใด.
(ใช้ตัวเลือกข้อ  2)  เฉลยข้อ  ก
4.  ข้อใดคือข้อดีในการทำให้อาหารแห้งโดยธรรมชาติ.
ก.  มีต้นทุนต่ำ    ข.  ทำได้ง่าย    ค.  รสชาติอร่อย  ง.  ถูกทั้งข้อ  กและข
5.  ข้อเสียในการทำให้อาหารแห้งโดยธรรมชาติคือข้อใด.
ก.  ผลิตภัณฑ์ไม่มีคุณภาพ     ข.  สีสันไม่สวยงาม
ค.  ป้องกันแมลงวันมาไต่ตอมไม่ได้     ง.  ถูกทั้งข้อ  ก  และ  ค
6.  ข้อใดคือผลิตภัณฑ์ที่ใช้การถนอมอาหารแบบการทำให้อาหารแห้ง
โดยธรรมชาติ.
ก.  กล้วยตาก    ข.  พริกแห้ง  เนื้อแดดเดียว
ค.  ปลาช่อนแดดเดียว  กุ้งแห้ง  ปลาเค็ม    ง.  ถูกทุกข้อ
7.   ข้อใดเกี่ยวข้องการทำให้อาหารแห้งโดยอาศัยวิธีกลเข้าช่วย.
ก.  การใช้เมมเบรน     ข.  การระเหย  การนำความร้อน
ค.  การพาความร้อน  การแผ่รังสี  เทคโนโลยีประเภทเครื่องจักร
ง.  ถูกทุกข้อ
8.  ข้อดีของการถนอมอาหารแห้งโดยอาศัยวิธีกลเข้าช่วยคือข้อใด.
ก.  สามารถถควบคุมอุณหภูมิได้   ข.  ควบคุมความชื้นได้
ค.  ควบคุมปริมาณวัตถุดิบได้     ง.  ถูกทั้งข้อ  กและ ข
9.  อุปกรณ์ในการทำอาหารให้แห้งโดยอาศัยวิธีกลคือข้อใด.
ก.  ตู้อบความร้อน    ข.  ตู้อบแสงอาทิตย์
ค.  ตู้ไมโครเวฟ        ง.  ถถูกทุกข้อ
10. ผลิตภัณฑ์ในข้อใดที่ใช้วิะีการถนอมอาหารแบบการทำให้อาหารแห้ง
โดยอาศัยวิธีกล.
ก.  ลำไยอบแห้ง   ข.  ขนุนอบ   ค.  นมผง   กาแฟผง  ไข่ผง  ง.  ถูกทุกข้อ

 

แบบทดสอบหน่วยที่ 4 เรื่องสาเหตุการเน่าเสียของอาหารและหลักการถนอมอาหาร ง 32104 ม.5

คำสั่ง  ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว
1.  สาเหตุการเน่าเสียของอาหารคือข้อใด.
ก.  เกิดจากสิ่งมีชีวิตเอนไซม์จุลินทรีย์ทำให้อาหารเปลี่ยนแปลงสภาพ
ข.   เกิดจากวัตถุดิบแะปฏิกริยาทางเคมีการใช้ภาชนะที่ทำด้วยเหล็ก
ทองแดง  ตะกั่วจะทำให้สีกลิ่นรสอาหารเปลี่ยนไป
ค.  เกิดจากการบรรจุภัณฑ์และการขนย้ายไม่ดีทำให้ภาชนะแตก  บุบ ฉีก
ทำให้เชื้อราและแบคทรีเรียเข้าไปปนเปื้อน
ง.  ถูกทุกข้อ
2.  ส้มเขียวหวานเน่าเกิดจากสิ่งมีชีวิตในข้อใด.
ก.  แบคทีเรีย     ข.  เชื้อรา   ค.  น้ำย่อยและยีสต์    ง.  แมลง
3.  เชื้อราสีดำในถั่วลิสงเกิดจากสิ่งมีชีวิตในข้อใด.ตัวเลือก 2  (เฉลยข้อ  ข)
4.  สิ่งมีชีวิตชนิดใดทำให้กล้วยดิบเป็นสุก.  ใช้ตัวเลือกข้อ  2 (เฉลี่ยข้อ  ค)
5.  การใช้ภาชนะที่ทำด้วยเหล็ก  ทองแดง  ตะกั่วจะทำให้สีกลิ่นรสชาติ
ของอาหารผิดปกติไปทำให้เกิดพิษต่อร่างกายเกิดจากสาเหตุในข้อใด.
ก.  เกิดจากสิ่งมีชีวิต    ข.  เกิดจากปฏิกริยาทางเคมี
ค.  เกิดจากการบรรจุภัณฑ์และการขนย้ายไม่ดดีทำให้ภาชนะแตก  บุบ  ฉีก
มีรอยรั่วทำให้เชื้อราแบคทีเรียเข้าไปปนเปื้อน
ง.  ภาชนะบรรจุอาหารไม่สะอาดภาชนะฆ่าเชื้อด้วยความร้อนไม่นานพอ
ที่จะทำลายสิ่งมีชีวิตต่างๆที่เป็นสาเหตุให้อาหารเกิดการบูดเสีย
6.  สิ่งมีชีวิตประเภทใดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อาหารบูดเสียมากที่สุดโดย
ทำให้อาหารมีกลิ่นเหม็นมีเนื้อสัมผัสที่แข็งกระด้างมีสีและรสชาติเปลี่ยน.
ก.  รา    ข.  ยีสต์     ค.  แบคทีเรีย    ง.  จุลินทรีย์
7.  ข้อใดคือโรคที่เกิดจากการรับประทานอาหารบูดเสีย.
ก.  โรคไข้เลือดออก     ข.  โรคอหิวาตกโรค
ค.  โรคไข้หวัดใหญ่       ง.  โรคความดันโลหิตสูง
8.  หลักการถนอมอาหารมีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับข้อใดมากที่สุด.
ก.  การควบคุมสิ่งมีชีวิตที่ทำให้อาหารเน่าเสีย
ข.  การจัดการสิ่งมีชีวิตที่ทำให้อาหารเน่าเสีย
ค.  ปฏิกริยาเคมีและการบรรจุภัณฑ์และการขนย้าย
ง.  ถูกทุกข้อ
9.  ข้อใดคือหลักการถนอมมอาหาร.
ก.  ป้องกันหรือยืดเวลาการสลายตัวที่เกิดขึ้นเองของอาหารทำลายยั้บยั้ง
การทำงานของน้ำย่อยในผลไม้เนื้อสัตว์ด้วยการใช้ความร้อน
ข.  ป้องกันหรือยืดเวลาการย่อยสลายอาหารที่เกิดจากจุลินทรีย์
ค.  ป้องกันการเปลี่ยนสีกลิ่นและรสชาติของอาหาร  ป้องกันการแตก  บุบ
ฉีกขาด มีรอยรั่วของบรรจุภัณฑ์
ง.  ถูกทุกข้อ
10. ทำความสะอาดก่อนนำมาถนอมอาหารด้วยการล้างเกี่ยวข้องกับข้อใด.
(ใช้ตัวเลือกข้อ  9)  เฉลยข้อ  ข