Category Archives: แผนการจัดการเรียนรู้ การงาน 6 ม. 6

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาการงาน 6 รหัสวิชา ง 33106 ม.6

คุณครูท่านใดจะใช้แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาการงาน 6 รหัสวิชา  ง 33106 ก็นำไปปรับใช้ได้ค่ะ
มีใบความรู้  ใบงาน  แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน  แบบทดสอบประจำหน่วย  แบบทดสอบ O-net
ภาระงานแต่ละหน่วย  การกำหนดคะแนนก่อนกลางภาค  กลางภาค  หลังกลางภาค  ปลายภาค
กำหนดการส่งงาน  การวัดผลประเมินผลดูรายละเอียดใน  เว็บไซต์  krupaga  หมวดหมู่แผนการจัดการเรียนรู้
สำหรับวิชาการงาน 6 การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทำไว้แบบละเอียดมาก ๆ ปรับปรุงแล้วหลายครั้ง
                                ขอบคุณคุณครูทุกท่านค่ะ

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่องทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทำงาน รายวิชาการงาน 6 รหัสวิชา ง 33106 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4  เรื่องทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทำางาน
หน่วยการเรียนรู้ที่  4  รหัสวิชา  ง  33106
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  6  เวลา  3   คาบ
1.  สาระสำคัญ
ในการทำงานทุกอย่างทั้งงานในชีวิตประจำวันและงานอาชีพมักประสบปัญหาและอุปสรรค
ต่าง ๆ มากมายต้องคิดหาทางแก้ปัญหาเหล่านั้นเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์
และเป้าหมายของการทำงานนั้น ๆ การแก้ปัญหาในการทำงานจจึงเป็นทักษะกระบวนการ
ที่ต้องอาศัยทักาษะในการสังเกตและการคิดวิเคราะห์อย่างมีระบบและเป้นขั้นตอน
2.  ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้
     2.1  ตัวชี้วัด
นักเรียนสามารอธิบายทักษะกระบวนการแก้ปัญหาและแก้ปัญหาในการทำงานได้
    2.2  จุดประสงค์การเรียนรู้
             1.  อธิบายกระบวนการแก้ปัญหาในการทำงานได้ (ง   1.1  ม. 4-6/4)
             2.  แก้ปัญหาในการตัดเย้บและดัดแปลงเสื้อผ้าได้ (ง. 1.1  ม.4-6/4)
             3.  แก้ปัญหาในการเก็บ  ถนอม  และแปรรูปอาหารได้ (ง  1.1  ม.44-6/4)
             4.  แก้ปัญหาในการติดตั้ง  ประกอบ  ซ่อมแซมอุปกรณ์  เครื่องมือ  สิ่งอำนวยความสะดวกในบ้านและโรงเรียนได้ (ง  1.1 ม.  4-6/4)
3.  สาระการเรียนรู้
      3.1  ขั้นตอนทักษะกระบวนการแแก้ปัญหาในการทำงาน
      3.2  การตัดเย็บและดัดแปลงเสื้อผ้า
      3.3  การเก็บ  การถนอมและแปรรูปอาหาร
      3.4  การติดตั้ง  ประกอบ  ซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องมือ  เครื่องใช้สิ่งอำนวยความสะดวก
ในบ้านและโรงเรียน
4.  สมรรถนะของผู้เรียน
      4.1  ความสามารถในการสื่อสาร
      4.2  ความสามารถในการคิด
      4.3  ความสามารถในการแก้ปัญหา
      4.4  ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
      4.5  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5.  คุณลักษณะอันพึงประสงค์
     1.  รักกชาติ  ศาสน์  กษัตริย์
     2.  ซื่อสัตย์สุจริต
     3.  มีวินัย
     4.  ใฝ่เรียนรู้
     5.  อยู่อย่างพอเพียง
     6.  มุ่งมั่นในการทำงาน
     7.  รักความเป็นไทย
     8.  มีจิตสาธารณะ
6.  ค่านิยมไทย  12  ประการ
1.  มีความรักชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์
      2.  ซื่อสัตย์  เสียสละ  อดทน
      3.  กตัญญูต่อพ่อแม่  ผุ้ปกครอง  ครูอาจารย์
      4.  ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม
      5.  รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทย
      6.  มีศิลธรรมรักษาความสัตย์
      7.  เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย
      8.  มีระเบียบ  วินัย  เคารพกฏหมาย  ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่
      9.  มีสติ  รู้คิด  รู้ทำ
      10.รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
      11.มีความเข้มแข้งทั้งร่ายกายและจิตใจ  ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ
      12.คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
7.  กิจกรรมการเรียนการสอน
1  ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการทำงานในชีวิตประจำวันและงานอาชีพ
โดยใช้แนวคำถามดงนี้
         1.1  ให้นักเรียนยกตัวอย่างงานในชีวิตประ จำวันและงานอาชีพ
แนวคำตอบ  งานบ้านได้แก่  งานเตรียมอาหาร  จัดโต๊ะอาหาร  ทำความสะอาดภาชนะเครื่องใช้
ในครัว  ทำความสะอาดตู้กับข้าว  ทำความสะอาดตู้เย็น  ซักผ้า  เก็บพับเสื้อผ้า  ซักผ้าปูที่นอน
ซักผ้าห่ม  ทำความสะอาดพัดลม  ทำความสะอาดหน้ากากเครื่องปรับอากาศ
งานอาชีพได้แก่  ค้าขาย  เกษตรกร  ทำไร่  ทำสวนยาง  เลี้ยงสัคว์  รับราชการครู  แพทย์
พยาบาล  วิศวกร  สถาปนิค  ตำรวจ  ทหาร  
       1.2  ให้นักเรียนบอกปัญหาอุปสรรคในการทำงานบ้านและงานอาชีพ.
แนวคำตอบ  ปัญหางานบ้านเนื่องมาจากขาดความรู้ความสามารถในการทำงานบ้าน
ปัญหางานอาชีพ  ไม่มีเวลาให้ครอบครัว  ขาดความรู้ความสามารถในอาชีพที่ทำ  ที่ทำงาน
อยู่ห่างไกลไม่ปลอดภัยในการเดินทาง  ค่าตอบแทนต่ำไม่คุ้มค่า  รายจ่ายในชีวิตประจำวันสูง
      1.3  นักเรียนคิกว่าเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในชีวิตประจำวันมีปัญหาหรือไม่อย่างไร.
แนวคำตอบ  งานอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้ามีปัญหาดังนี้  ปัญหาค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเสื้อผ้าที่ตัดเย็บ
ค่าใช้จ่ายสูง  สำหรับวิธีแก้ปัญหาคือ  ตัดเสื้อผ้าสวมใส่เอง  แปลงโฉมเสื้อผ้าที่มีอยู่ให้เป็น
รูปทรงใหม่ที่ทันสมัย  แต่จะต้องอาศัยการสังเกต  การศึกษาหาความรู้และการลงมือปฏิบัติจริง 
      1,4  อาชีพช่างตัดเย็บเสื้อผ้ามีปัญหาหรือไม่อย่างไรนักเรียนมีวิธีแก้ปัญหาอย่่างไรบ้าง.
แนวคำตอบ  ขั้นตอนการวัดตัวอาจมีปัญหาถ้าช่างวัดตัวผิดพลาดทำให้เสื้อผ้าคับหรือหลวม
จนเกินไป  ทำให้เสื้อผ้าผิดสัดส่วนสวมใส่แล้วไม่สวยงาม  ตึง  รั้ง  หลวมเกินไปทำให้สวมใส่ไม่สบาย  การคำนวนผ้า  ก่อนตัดเย็บเสื้อผ้าจะต้อง  สังเกต  การวิเคราะห์  การสร้างทางเลือก
การประเมินทางเลือก  อาจจะนำแบบมาเปรียบเทียบว่าแบบไหนเหมาะที่สุด
2.  ครูแจ้งตัวชี้วัดเพื่อให้นักเรียนทราบว่าต่อไปจะได้ศึกษาเกี่ยวกับทักษะกระบวนการ
แก้ปัญหาในการทำงานประจำวัน และให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน  เรื่องทักษะกระบวน
การแก้ปัญหาในการทำงานในชีวิตประจำวัน.                                                                                       3.  นักเรียนแบ่งกลุ่ม  ๆ ละ  4  คน  คละกันตามระดับความสามารถ   โดยแต่ละกลุ่มให้มี
นักเรียนเก่ง  1  คน  ปานกลาง  2-4  คน  นักเรียนอ่อน  1  คน  ซึ่งเรียกว่า กลุ่มบ้าน(Home group) เลือกประธานและเลขานุการกลุ่ม
4.  ประธานกลุ่มรับใบความรู้และใบงานที่  แจกให้สมาชิกในกลุ่มดังนี้
คนที่  1  รับใบความรู้และใบงานที่  4.1  เรื่องทักษะกระบวนการแก้ปัญญหาในการทำงานในชีวิตประจำวัน
คนที่  2  รับใบความรุ้และใบงานที่  4.2  เรื่องการตัดเย็บและดัดแปลงเสื้อผ้า
คนที่  3  รับใบความรู้และใบงานที่  4.3  เรื่องการเก็บ  การถนอมอาหารและแปรรูปอาหาร
คนที่  4  รับใบความรู้และใบงานที่  4.4  เรื่องการติดตั้งประกอบ  ซ่อมแซมอุปกรณ์
เครื่องมือเครื่องใช้  สิ่งอำนวยความสะดวกในบ้านและโรงเรียน
5.  นักเรียนกลุ่มบ้านแยกไปเข้ากลุ่มผู้เชี่ยวชาญ  (Expret  group)  ที่มีหัวข้อเดียวกัน
เพื่อร่วมกันศึกษาและอภิปรายตามหัวข้ออภิปรายตามใยงานจนเข้าใจและเชี่ยวชาญ
6.  นักเรียนแต่ละคนกลับเข้ากลุ่มบ้านและหมุนเวียนกันอธิบายเนื้อหาและผลการอภิปราย
ตามใบงานให้สมาชิกในกลุ่มทราบ  โดยครูคอยสังเกตพฤติกรรมการทำงานของกลุ่ม
7.  ครูสรุปเพิ่มเติมเพื่อชี้ให้นักเรียนเห็นว่าทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทำงาน
ในชีวิตประจำวันและปัญหางานอาชีพ  งานการตัดเย็บเสื้อผ้าและดัดแปลงเสื้อผ้า
การเก็บ  การถนอมอาหารและแปรรูปอาหาร  เรื่องการติดตั้งประกอบ  ซ่อมแซมอุปกรณ์
เครื่องมือเครื่องใช้  สิ่งอำนวยความสะดวกในบ้านและโรงเรียน  และสอดแทรกเรื่องค่านิยม
ไทย  12  ประการ  สมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน  คุณลักษณะอันพึงประสงค์  หลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียงและอาเซียน  ให้นักเรียนเข้าใจ
8.

    
     

 

 

 

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องทักษะการจัดการ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 รายวิชาการงาน 6 รหัสวิชา ง 33106 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

แผนการจัดการเรียนรู้ที่  3  เรื่องทักษะการจัดการ
หน่วยการเรียนรุ้ที่  3  เวลา  3  คาบ
รห้สวิชา  ง  331106  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  6
1.  สาระสำคัญ
ทักษะการจัดการเป็นการจัดระบบงานและระบบคนเพื่อให้สามารถทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมายโดยกาารรดำเนินการวางตัวบุคคลให้เหมาะสมกับงานหรือให้คนทำงานตามความรู้
ความสามารถดังนั้นทักษะการจัดการจึงเป็นกระบวนการดำเนินงานอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นระบบ
โดยเริ่มจากกาารวางแผน  การทำกิจกรรมตามหน้าที่อย่างสร้างสรรค์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด เช่นทักษะการจัดการการดูแลรักษา  ทำความสะอาด
จัดตกแต่งบ้านและโรงเรียน  การบำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
ในชีวิตประจำวัน  การปลูกพืช  การขยายพันธุ์พืชและการเลี้ยงสัยว์  และการดำเนินการทางธุรกิจ
2.  ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรุ้
     2.1  ตัวชี้วัด
นักเรียนสามารถอธิบายทักษะการทำงานต่าง ๆได้
    2.2  จุดประสงค์การเรียนรู้
             1.  บอกความหมายและความสำคัญของทักษะการจัดการได้ (ง  1.1  ม. 4-6/3)
             2.   อธิบายความมสำคัญและหลักการดูแลรักษา  ทำความสะอาด  จัด  ตกแต่งบ้าน
และโรงเรียนได้(ง 1.1 ม. 4-6/3)
             3.  บอกความแตกต่างระหว่างการจัด  ตกแต่งบ้านและโรงเรียนได้ (ง  1.1  ม. 4-6/3)
             4.  ดูแลรักษาความสะอาด  จัด  ตกแต่งห้องรับแขกหรือห้องเรียนได้((ง 1.1 ม. 4-6/3)
             5.  อธิบายความสำคัญของการบำรุงเก็บรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อำนวย
ความสะดวกได้(ง  1.1  ม. 4-6/3
             6.  บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันได้
(ง 1.1 ม. 4-6/3)
             7.  อธิบายความหมายและความสำคัญของพืชและการปลูกพืชได้(ง 1.1 ม. 4-6/3)
             8.  จำแนกประเภทและพันธุ์พืชได้(ง 1.1 ม. 4-6/3ป
             9.  บอกความหมายและความสำคัญของการขยายพันธุ์พืชได้(ง 1.1 ม. 4-6/3)
             10.ขยายพันธ์ุพืชได้เหมาะสมกับชนิดของพืช  (ง  1.1 ม. 4-6/3)
             11.อธิบายความหมายและความสำคัญของการเลี้ยงสัตว์ได้(ง 1.1 ม. 4-6/3)
             12.เลือกเลี้ยงสัตว์เพื่อความสวยงามและเพื่อบริโภคในครัวเรือนได้(ง 1.1 ม. 4-6/3)
             13.อธิบายการดำเนินงานทางธุรกิจได้(ง 1.1  ม.4-6/3)
3.  สาระการเรียนรู้
3.1  ความหมายและความสำคัญของทักษะกระบวนการจัดการ
             3.2   การดูแลรักษา  ทำความสะอาดจัดตกแต่งบ้านและโรงเรียน  การบำรุงเก็บรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในชีวิต     ประจำวัน
             3.3  การปลูกพืช  การขยายพันธุ์พืช  และการเลื้ยงสัตว์
             3.4  การดำเนินการทางธุรกิจ
4.   สมรรถน
ะสำคัญของผู้เรียน
4.1  ความสามารถในการสื่อสาร
             4.2  ความสามารถในการคิด
             4.3  ความสามารถในการแก้ปัญหา
             4.4  ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
             4.5  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5.  คุณลักษณะอันพึงประสงค์
  5.1  รักชาติ  ศาสน์  กษัตริย์
             5.2  ซื่อสัตย์สุจริต
             5.3  มีวินัย
             5.4  ใฝ่เรียนรู้
             5.5  อยู่อย่างพอเพียง
             5.6  มุุ่งมั่นในการทำงาน
             5,7  รักความเป็นไทย
             5.7  มีจิตสาธารณะ
6.  ค่านิยมไทย  12  ประการ
      6.1  มีความรักชาติ  ศาสนา  พระะมหากษัตริย์
      6.2  ซื่อสัตย์  เสียสละ  อดทน
      6.3  กตัญญูต่อพ่อแม่  ผู้ปกครอง  ครูบาอาจารย์
      6.4  ใฝ่หาคความรู้  หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม
      6.5  รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทย
      6.6  มีศิลธรรมรักษาความสัตย์
      6.7  เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย
      6.8  มีระเบียบ  วินัย  เคารพกกฏหมาย  ผุ้น้อยรู้จักการเคารพผุ้ใหญ่
      6.9  มีสติ  รู้คิด  รู้ทำ
      6.10รุ้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
       6.11มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ
6.12คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่ววนรวมมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
7.  ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและอาเซียน
8.  กิจกรรมการเรียนการสอน
1.  ครูทบทวนบทเรียนเดิมเกี่ยวกับทักษะกระบวนการทำงานร่วมกันและอภิปรายร่วมกัน
ถึงทักษะการจัดการโดยใช้แนวคำถามดังนี้
1.1  ทักษะการจัดการหมายถึงอะไร.
แนวคำตอบ  การจัดระบบงานและระบบคนเพื่อให้สามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
1.2  การดููแลรักษาบ้านและโรงเรียนมีความสำคัญต่อนักเรียนอย่างไร.
แนวคำตอบ  เพพราะเป็็นหน้าที่ของนักเรียนทำให้เกิดความภาคภูมิใจในผลงานของตนเองส่ง
ผลให้นักเรียนมีความผูกพันธ์กับบ้านและโรงเรียน
1.3  นักเรียนเคยดูแลรักษาความสะอาดห้องครัวหรือไม่  ยกตัวอย่าง
แนวคำตอบ  เคยทำทุกวันโดยหลังจากประกอบอาหารแล้วทำความสะอาดเเตาแก๊สทุกวันโดยนำผ้าชุบน้ำและสารสบุ่เช็ดถู  นอกจากนั้นทำความสะอาดพื้นด้วยการเช็ดถู  กวาด
2.  ครูแจ้งตัวชี้วัด/จุดประสงค์กาารเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการงานต่าง ๆ ให้บรรลุจุดมุ่งหมาย
และให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน
3.  แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ  4   คน  คละกันตามความสามารถโดยมีนักเรียนเก่ง
1   คน  ปานกลาง  2  คน    และอ่อน  1   คน  เลือกประธานและเลขานุการกลุ่มซึ่งเรียกว่า
กลุ่มบ้าน(Home  Group)
4.  ให้ประธานกลุ่มรับใบความรู้ที่  3.1  และใบงานที่  3.1  เรื่องความหมายและความสำคัญ
ของทักาะกระบวนการการจัดการ – ใบงานที่  3.4  ดังนี้
คนที่  1  รับใบความรู้ที่  3.1  และใบงานที่  3.1  เรื้องการดูแลรักษาทำความสะอาด  จัดตกแต่ง
บ้านและโรงเรียน
คนที่  2   รับใบความรู้ที่  3.2  และใบงานที่  3.2  เรื่องการบำรุงเก้บรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าและ
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน
คนที่  3  รับใบความรู้ที่  3.3  และใบงานที่  3.3  เรื่องการปลุกพืช  การขยายพันธุ์พืชและ       การเลี้ยงสัตว์
คนที่  4  รับใบความรู้ที่  3.4  แและใบงานที่  3.4  เรื่องการดำเนินการทางธุรกิจ
5.  จัดกลุ่มเชี่ยวชาญ(Expert  group)โดยให้นักเรียนจากกลุ่มบ้านแต่ละคนที่ได้รับใบงาน
เดียวกันไปรวมกลุ่มกันใหม่  แล้วศึกษาฝึกฝนทำความเข้าใจเนื้อหา  อภิปรายตามใบงาน
ที่ไดรับมอบหมายร่วมกันจนเข้าใจ
6.  ให้นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มเชี่ยวชาญกลับกลุ่มบ้านแล้วดำเนินการดังนี้
      6.1  ผลัดกันอธิบายเนื้อหาและผลการอภิปรายให้สมาชิกในกลุ่มฟังโดยเริ่มจาก  ใบงานที่
3.1  3.2  3.3  และ 3.4
      6.2  สมาชิกในกลุ่มซซักถามและทำความเข้าใจร่วมกัน  ขณะที่นักเรียนเข้ากลุ่มครุคอยสังเกตพฤติกรรมการทำงานของกลุ่มและให้คำแนะนำเพิ่มเติม
7.  ครูอธิบายสอดแทรกค่านิยมไทย  12  ประการ  สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน  คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์    ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและอาเซียน 
8.  ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเกี่ยวกับความหมายและความสำคัญของทักษะกระบวนการ
การจัดการ  การบำรุงเก็บรักษาทำความสะอาด  จัดตกแต่งบ้านและโรงเรียน  การปลูกพืช
การขยาพันธุ์พืชและการเลี้ยงสัตว์  และการดำเนินงานทางธุรกิจ
9.  ทดสอบรายบุคคลแล้วเปลี่ยนกันตรวจตามเฉลย  เฉลี่ยคะแนนของกลุ่มเป็นคะแนนของ
สมาชิกทุกคนในกลุ่มและครูยกย่องชมเชยกลุ่มที่ได้คะแนนมากที่สุดและให้รางวัล
สื่อการเรียนการสอน
         1.  ใบความรู้ที่  ใบงานที่  3.1  เรื่องความหมายและความสำคัญของทักษะกระบวนการจัดการ
         2.  ใบความรู้  ใบงานที่  3.2  เรื่องการบำรุงเก็บรักษาทำความสะอาดจัดตกแต่งบ้านและโรงเรียน
         3.  ใบความรู้ที่  ใบงานที่  3.3  เรื่องการปลูกพืช  การขยายพันธุ์พืชและการเลี้ยงสัตว์
         4.  ใบความรู้ที  ใบงานที่  3.4  เรื่องการดำเนินงานทางธุรกิจ
การวัดและประเมินผล
1.  สิ่งที่จะวัด
1.1  ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ประจำหน่วย
1.2  พฤติกรรมการปฏิบัติ
1.3  การทำกิจกรรม/ปฏิบัติผลงาน
2.  วิธีการวัด
2.1  ทำแบบทดสออบ
2.2  สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติ
2.3  ตรวจผลการทำกิจกรรม/ผลงาน
3.  เครื่องมือวัด
3.1  แบบทดสอบ
3.2  แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรม
3.3  แบบบันทึกการทำกิจกรรม/แบบตรวจผลงาน
4.  เกณฑ์การวัดผลประเมินผล
4.1  เกณฑ์การวัด
4.1.1  ให้คะแนนแบบทดสอบ  ข้อถูกให้  1  คะแนน  ข้อผิดให้  0   คะแนน
4.1.2  ให้คะแนนพฤติกรรมดังนี้
ดีมาก         ให้    9-10    คะแนน
ดี                ให้    7-8      คะแนน
พอใช้         ให้    5-6      คะแนน
ควรปรับปรุงให้    1-4      คะแนน

4.1.3  ให้คะแนนการทำกิจกรรม  ดังนี้  ข้อถูกใให้  1  คะแนน  ข้อผิดให้  0  คะแนน

4.2  เกณฑ์การประเมินผล
4.2.1  นักเรียนได้คะแนนทดสอบไม่น้อยกว่าร้อยละ  50

4.2.2  นักเรียนได้คะแนนพฤติกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ  70

4.2.3  นักเรียนได้คะแนนกิจกรรม/คะแนนผลงานรวมไม่น้อยกว่าร้อยละ  70

 

ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษา

……………………………………………………..

ลงชื่อ…………………………..ผู้บริหาร
(นายไตรสรณ์   สุวพงษ์)
ตำแหน่ง  ผู้อำนวยการโรงเรียนกุดชุมวิทยาคม

 

บันทึกผลหลังการสอน
1.  ผลการสอน         

 2.  ปัญหาและอุปสรรค

3.  ข้อเสนอแนะ

                                                                                                                                                       ลงชื่อ………………….ครูผู้สอน                                            

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่องความคิดสร้างสรรค์(เอกลักษณ์ไทย)และทักษะการทำงานร่วมกัน รายวิชา ง 33106 ม.6

แผนการจัดการเรียนรู้ที่   2    เรื่องความคิดสร้างสรรค์(เอกลักษณ์ไทย)
และทักษะการทำงานร่วมกัน
รหัสวิชา  ง  33106  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  6
หน่วยการเรียนรู้ที่  2  เวลา   3  คาบ

1.  สาระสำคัญ
ความคิดสร้างสรรค์เป็นกระบวนการคิดของสมองที่คิดอย่างสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆที่แตกต่างไปจากเดิมและสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมสมองมนุษย์มีความสามารถในการคิด
ที่หลากหลายและแปลกใหม่จากเดิมจนนำไปสู่การสร้างสิ่งของที่แปลกใหม่และการแก้ปัญหา
        ทักษะการทำงานร่วมกัน  เป็นทักษะทางสังคมที่สำคัญอย่างหนึ่งเพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมไม่สามารถอยู่ได้ตามลำพังจึงรวมกันเป็นกลุ่มเพื่อการทำงานหรือแก้ปัญหา
2.  ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้
     2.1  ตัวชี้วัด
นักเรียนสามารถอธิบายความคิดสร้างสรรค์และรวมกลุ่มประดิษฐ์ของใช้ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย
     2.2  จุดประสงค์การเรียนรู้
             1.  บอกความหมายและประโยชน์ของความคิดสร้างสรรค์ได้
             2.  จำแนกลักษณะของความคิดสร้างสรรค์ได้
             3.  ทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มได้อย่างมีความสุข
             4.  ประดิษฐ์ของใช้ที่เป็นเอกลักษณ์ไทยได้
             5.  บอกหน้าที่และบทบาทของตนเองที่มีต่อสมาชิกในครอบครัวโรงเรียน และชุมชนได้
3.  สาระการเรียนรุ้
            3.1  ความหมายและประโยชน์ของความคิดสร้างสรรค์
            3.2 จำแนกลักษณะของความคิดสร้างสรรค์
            3.3  ทักษะการทำงานร่วมกัน
            3.4  ประดิษฐ์ของใช้ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย
                    3.4.1  มาลัยซีก
                    3.4.2  มาลัยกลม
                    3.4.3  มาลัยตุ้ม
           3.5  บอกหน้าที่และบทบาทของตนเองที่มีต่อสมาชิกในครอบครัว  โรงเรียนและชุมชน
4.  สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
           4.1  ความสามารถในการสื่อสาร
           4.2  ความสามารถในการคิด
           4.3  ความสามารถในการแก้ปัญหา
           4.4  ความสามารถในการใช้ทักษะในการใช้ชีวิต
           4.5  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5.  คุณลักษณะอันพึงประสงค์
      1.  รักชาติ  ศาสน์  กษัตริย์
      2.  ซื่อสัตย์สุจริต
      3.  มีวินัย
      4.  ใฝ่เรียนรู้
      5.  อยู่อย่างพอเพียง
      6.  มุ่งมั่นในการทำงาน
      7.  รักความเป็นไทย
      8.  มีจิตสาธารณะ
6.  ค่านิยมไทย  12  ประการ
      1.  มีความรักชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์
      2.  ซื่อสัตยื  เสียสละ  อดทน
      3.  กตัญญูพ่อแม่  ผู้ปกครอง  ครุบาอาจารย์
      4.ใฝ่หาความรู้  หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม
      5.  รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทย
      6.  มีศิลธรรมรักษาความสัตย์
      7.  เข้าใจการเรียนรู้เป็นประชาธิปไตย
      8.  มีระเบียบ  วินัย  เคารพกฎกหมาย  ปผู้น้อยรู้จักเคารพผู้ใหญ่
      9.  มีสติ  รุ้คิด  รู้ทำ
      10.รู้จักดำรงตนอยุ่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
      11.มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ  ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ
      12.คำนึงถึงผลประโยชนืของส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
7.  ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  ความมีเหตุผล
     ความมีเหตุผลหมายถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้นจะต้องเป็นไป
อย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง  ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่า
จะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ
8.  กิจกรรมการเรียนนการสอน (คาบ 1-2)
1.  ให้นักเรียนดูรูปภาพเด็กชายหม่อง  ทองศรี  แชมป์เครื่องบินกระะดาษพับ
จากประเทศญึ่ปุ่น  จากหนังสือแบบเรียนการงานอาชีพและเทคโนโลยี  ง 33106
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 หน้า  26 และให้นักเรียนร่วมกันอภิปรรายในประเด็นต่อไปนี้
          1.1  อะไรทำให้เด็กชายหหม่อง  ทองศรี   ได้เข้าร่วมแข่งขันเครื่องบินกระดาษพับ
          1.2  เพราะเหตุใดเด็กชายหม่อง  ทองศรี  จึงได้รับรางวัลแชมป์เครื่องบินกระดาษพับ
          1.3  มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เด็กชายหม่อง  ทองศรี  ได้รับรางวัลแชมป์เครื่องบิน
กระดาษพับ
          1.4.  แชมป์เครื่องบินกระดาษพับได้รับการสนับสนุนจากใครบ้าง
          1.5  นักเรียนคิดว่าเด็กชาหม่อง  คำศรี  มีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้างก่อนที่จะได้รับ
รางวัลแชมป์เครื่องบินกระดาษพับ
    2.  ครูแจ้งตัวชึ้วัดให้นักเรียนได้ทราบว่า  ต่อไปนี้นักเรียนจะได้ศึกษาเกี่ยวกับความคิด
สร้างสรรค์และรวมกลุ่มประดิษฐ์ของใช้ที่เป็นเอกลักษณ์ไทยและทำแบบทดสอบก่อนเรียน
หน่วยการเรียนรู้ที่  2  เรื่องความคิดสร้างสรรค์(เอกลักษณ์ไทย)และทักษะการทำงานร่วมกัน
    3.  แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ  4-6  คน  โดยคละกันตามความสามารถ
    4.  ให้นักเรียนศึกษาเนื้อหาสาระจากหนังสือเรียนการงานอาชีพและเทคโนโลยี  หน้า
23-33ในหัวข้อ  ความหมายและประโยชน์ของความคิดสร้างสรรค์  การจำแนกลักษณะของ
ความคิดสร้างสรรค์  การทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม
     5.  ให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มรับใบงานที่  1.1  เรื่องความคิดสร้างสรรค์  การจำแนกลักษณะของ
ความคิดสร้างสรรค์และการทำงานร่วมกัเป็นกลุ่ม  และร่วมกันทำกิจกรรม  โดยครุคอย
ให้คำแนะนำเพิ่มเติมและสังเกตพฤติกรรม
    6.  ให้แต่ละกลุ่มส่่งตัวแทนรายงานหน้าชั้นเรียนโดยให้สรุปใจความสำคัญลงในแผ่นใส
ตามที่ครูกำหนดให้ดังนี้
          กลุ่มที่  1  รายงานเรื่องความหมายของความคิดสร้างสรรค์
          กลุ่มที่  2  การจำแนกลักษณะของความคิดสร้างสรรค์
          กลุ่มที่  3  องค์ประกอบของความคิดสร้าางสรรค์และขั้นตอนในการคิด
          กลุ่มที่  4  ประโยชน์ของความคิดสร้างสรรค์
          กลุ่มที่  5   อุปสรรค์ของการฝึกความคิดสร้างสรรค์
          กลุ่มที่  6  ทักษะการทำงานร่วมกัน
          กลุ่มที่  7  กระบวนการกลุ่ม
    7.  ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายตามใบงานที่  1.1  ดังนี้
         7.1  ความคิดสร้างสรรค์หมายถึงอะไร
แนวคำตอบ  กระบวนการคิดของสมองที่คิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆที่แตกต่างไปจากเดิมและสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมเพราะสมองของมนุษย์เรามีความสามารถในการคิด
ได้หลากหลายและแปลกใหม่และคิดรูปแบบใหม่ขึ้นมาเลือกว่า  คิดนอกกรอบ
       7.2  ความคิดสร้างสรรค์จำแนกได้กี่ลักษณะ
แนวคำตอบ  การคิดสร้างสรรค์มี  4  ลักษณะคือความคิดริเริ่ม(Originality)ลักษณะความคิด
แปลกใหม่แตกต่างจากความคิดเดิม เช่นการเลี้ยงกบในกล่องโฟม  ความคล่องในการคิด
(Fluenncy)คือความสามารถในการคิดหาคำตอบ ความยืดหยุ่นในการคิด(Flexibility)คือความสามารถในการคิดหาคำตอบได้หลายประเภท  เช่น นำขวดน้ำพลาสติกหรือกล่องนมไปดัดแลงให้ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันความคิดละเอียดละออ(Elaboration)คือความคิดในรายละเอียดเพื่อตกแต่งหรือขยายความคิดหลัก
7.3  องค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์ได้แก่อะไรบ้างและมีขั้นตอนในการคิดอย่างไร
แนวคำตอบ  ความคิดสร้างสรรค์จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยองค์ประกอบ  3  อย่างคือความคิดนั้นต้องเป็นสิ่งใหม่  เป็นความคิดไม่เหมือนใคร  นำไปใช้ได้หรือมีประโยชน์  มีความเหมาะสมกับเหตุการณ์หรือเรื่องราวที่กำลังคิดกำลังแก้ปัญหา
ขั้นตอนในการคิดมี  4  ขั้นตอนคือ ขั้นเตรียมการคือการรวบรวมข้อมูล  ขั้นครุ่นคิด
แต่ยังคิดไม่ออก  ขั้นของการเกิดความคิด  ขั้นพิสูจน์  เป็นระยะของการตรวจสอบประเมินผล
7.4  ข้อใดคือประโยชน์ของการคิดสร้างสรรค์
แนวคำตอบ  1.  ทำให้เกิดแนวทางใหม่ ๆในการดำเนินชีวิต  2.  ช่วยพัฒนาสมองของคนให้มีความแลาด  เฉียบคม การคิดเรื่องแปลกใหม่อยู่ประจำทำให้สมองเฉียบแหลมในการแก้ปัญหา
3.  สร้างความเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจในตนเอง  4.   ช่วยยกระดับความสามมารถและความ
อดทน  5.  ความคิดสร้างสรรค์ก่อให้เกิดเทคโนโลยีต่าง ๆที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง สังคม
7.5 ข้อใดคือ อุปสรรคของการฝึกความคิดสร้าางสรรค์
แนวคำตอบ  แบ่งออกเป็น  2  ประเภทท  คืออุปสรรคภายนอก  ข้อจำกัดอันเกิดจาก               ขนบธรรมเนียม  ประเพณี  วัฒนธรรมและกฏเกณฑ์ของสังคม
อุปสรรคคภายใน  คือ  อุปนิสัย  ท่าที  และเจตคติของตัวเองได้แก่่ความกลัวที่จะถูกกตำหนิและหาว่าแปลกหรือชินกับความคิดเดิมหรือมีมุมมองแคบมองทุกอย่างเพียงมิติเดียว
7.6  ทักษะการทำงานร่วมกันหมายถึงอะไร
แนวคำตอบ  ทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทักษะทางสังคมที่สำคัญอย่างหนึ่งของมนุษย์
เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมไม่สามารถอยู่ตามลำพังต้องอยู่รวมกันเป็นหมู่
7.7  กระบวนการกลุ่มหมายถึงกระบวนการทำงานร่วมกันขของบุคคลตั้งแต่  2  คนขึ้นไป
โดยมีวัตถุประสงค์และการดำเนินงานร่วมกันโดยผู้นำกลุุ่มและสมาชิกทำหน้าที่ของตนเอง
8.  ครูและนักเเรียนร่วมกันสรุปความคิดสร้างสรรค์(เอกลักษณ์ไทย)และทักษะการทำงานร่วมกันและครูสอดแทรกเรื่องค่านิยมม  12  ประการ  คุณลักษณะอันพึงประสงค์  สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน  ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเรื่องความีเหตุผลในการคิดแบบต่างๆ
9.  ให้ตัวแทนกลุ่มรับใบงานที่  2.2 เรื่องกาารประดิษฐ์ของใช้ที่เป้็นเอกลักษณ์ไทยและ
ใบงานที่  2.3  เรื่องหน้าที่และบทบาทของตนเองที่มีต่อสมาชิกในครอบครัว  โรงเรียนชุมชน
10.ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปใบงานที่  2.2 และใบงานที่  2.3
10.ตัวแทนกลุ่มรับใบความรู้ที่่  2.1  ไปศึกษาเพิ่มเติม  พร้อมทั้งให้ไปศึกษาล่วงหน้าในหัวข้อ
การร้อยมาลัยซีก  มาลัยกลมแและมาลัยตุ้ม ในหนังสือการงานอาชีพและเทคโนโลยีหน้า
37-42 และใบความรุ้ที่  2.2 เรื่องหน้าที่แลละบทบาทของตนเองที่มีต่อครอบครัวโรงเรียนชุมชน
กิจกรรมการเรียนการสอน (คาบที่ 3)
1.  ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนบทเรียนเดิมเรื่องการประดิษฐ์ของใช้ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย
2.  ครูแจ้งให้นักเรียนทราบว่าต่อไปนี้นักเรียนจะได้ปฏิบัติการร้อยมาลัยซีก  มาลัยกลมและมาลัยตุ้ม  และเรื่องหน้าที่และบทบาทของตนเองที่มีต่อสมาชิกในครอบครัวโรงเรียน ชุมชน
3.  นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ  3-4คน  คละตามมระดับความสามารถโดยให้มีนักเรียนเก่ง  1  คน
นักเรียนปานกลาง  2  คน  และนักเรียนอ่อน  1  คน  เลือกประธาน  และเลขากลุ่ม ซึ่งเรียกว่ากลุ่มบ้าน
4.  ประธานแต่ละกลุ่มรับใบงาน  4  ชุดและแจกให้สมาชิกในกลุ่มดังนี้
คนที่  1  รับใบความรู้และรับใบงานที่  2.2  เรื่องวัสดุ-อุปกรณ์  ขั้นตอนวิธีการร้อยมาลัยซีก
คนที่  2   รับใบความรู้และรับใบงานที่  2.3  เรื่องวัสดุ-อุปกรณ์  ขั้นตอนการร้อยมาลัยกลม
คนที่  3  รับใบความรู้และรับใบงานที่  2.3  เรื่องวัสดุ-อุปกรณื  ขั้นตอนการร้อยมาลัยตุ้ม
คนที่  4  รับใบความรู้รับใบงานที่  2.5  เรื่องหน้าที่และบทบาทตนเองที่มีต่อครอบครัว  โรงเรียนและชุมชน
5.  จัดกลุ่มเชียวชาญโดยให้นักเรียนจากกลุ่มบ้านที่ได้รับใบงงานเดียวกันไปรวมกลุ่มกันใหม่
ศึกษาทำความเข้าใจและทำกิจกรรมร่วมกันพร้อมจดบันทึกคำตอบลงในใบงานให้้ครบ
ขณะนักเรียนทำกิจกรรมครูคอยสังเกตพฤติกรรมนักเรียนพร้อมชี้แนะในข้อที่สงสัย
6.  ให้สมาาชิกในกลุ่มเชี่ยวชาญกลับเข้ากลุ่มเดิมแล้วดำเนินการดังนี้
6.1  ผล้ดกันอธิบายให้สมาาชิกในกลุ่มฟังโดยเริ่มจากใบงานที่  2.2  2.3  2.4และ2.5
ตามลำดับจนครบทุกคน.
6.2  สมาชิกในกลุ่มซักถามและทำความเข้าใจร่วมกัน
7.  ครูสาธิตการร้อยมาาลัยซีก  มาลัยกลม  มาลัยตุ้ม  ให้นักเรียนดูและให้นักเรียนปฏิบัติตามแบบตัวอย่างที่ครูสาธิตและฝึกร้อยมาลัย  2-3ครั้งเพื่อให้เกิดความชำนาญ
8.  ให้นักเรียนร้อยมาลัยตามแบบ
9.  ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปถึงวิธีการร้อยมาลัยและหน้าทที่และบทบาทของตนเองที่มีต่อสมาชิกในครอบครัว  โรงเรียนและชุมชน
10. ทดสอบหลังเรียน (แบบทดสอบหลังเรียนในเว็บไซตืkrupaga)
สื่อการเรียนการสอน
1. ใบงานที่  2.1  เรื่องความคิดสร้างสรรค์เอกลัการ์ไทยและทักษะการทำงานร่วมกัน
2.  แผ่นใส
3.  ปากกาเขียนแผ่นใส
4.  เครื่องแายข้ามศรีาะ
5.  ใบงานที่  2.2  เรื่องวัสดุ-อุปกรณ์ขั้นตอนวิธีการร้อยมาลัยซีก
6.  ใบงานที่  2.3  เรื่องวัสดุ-อุปกรณ์ขั้นตอนวิธีการร้อยมาลัยกลม
7.  ใบงานที่  2.4  เรื่องวัสดุ-อุปกรณ์ขั้นตอนวิธีการร้อยมาลัยตุ้ม
8.  ใบงานที่  2.5  เรื่องหน้าที่และบทบาทของตนเองที่มีต่อสมาชิกในครอบครัว โรงเรียน ชุมชน
การวัดผลประเมินผล
1.  สิ่งที่จะวัด
1.1  ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้
1.2  พฤติกรรมการปฏิบัติ
1.3  การทำกิจกรรม
2.  วิธีการวัด
2.1  ทำแบบทดสอบ
2.2  สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติ
2.3  ตรวจผลการทำกิจกรรม(ผลงาน)
3.  เครื่องมือวัด
3.1  แบบทดสอบ
3.2  แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรม
3.3  แบบบันทึกการทำกิจกรรม(แบบบันทึกการตรวจผลงาน)
4.  เกณฑ์การวัดผลและประเมินผล
4.1  เกณฑ์การวัด
4.1.1  ให้คะแนนแบบทดสอบ  ข้อถูกให้  1  คะแนน  ข้อผิดให้  0  คะแนน
4.1.2  ให้คะแนนพฤติกรรมดังนี้
ดีมาก       ให้    9-10  คะแนน
ดี               ให้    7-8    คะแนน
พอใช้        ให้    5-6    คะแนน
ควรปรับปรุงให้  1-4    คะแนน
4.1.3  ให้คะแนนการทำกิจกรรมหรือคะแนนปฏิบัติผลงาน  ดังนี้  ข้อถูกให้  1  คะแนน
ข้อผิดให้  0  คะแนน  สำหรับผลงาน  ผลงานเสร็จสมบูรณ์เรียนบร้อยทันเวลที่กำหนด
ให้   5  คะแนน  ทำผลงานเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ทันเวลาแต่ยังไม่ประณีตความสวยงามระดับปานกลาง-ดี ให้คะแนน  4   คะแนน  ทำเสร็จสมบูรณ์ทันเวลาแต่ไม่สวยงามให้  3  คะแนน
4.2  เกรณฑ์การประเมินผล
4.2.1  นักเรียนได้คะแนนนทดสอบไม่น้อยกว่่าร้อยละ  50
4.2.2  นักเรียนได้คะแนนพฤติกรรมรวมไม่น้อยกว่าร้อยละ  70
4.2.3  นักเรียนได้คะแนนกิจกรรมหรือผลงานรวมไม่น้อยกว่าร้อยละ  70
ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษา
…………………………….
ลงชื่อ                                   ผู้บริหาร
(นายไตรสรณ์  สุวพงงษ์)                                                                                                      ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน

บันทึกผลหลังสสอน
1.  ผลการสอน
2.  ปัญหาและอุปสรรค
3.  ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม

ลงชื่อ……………………………ครูผู้สอน
(นางผกาวดี  ศรีวะสุทธิ์)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1/57 เรื่องการทำงานในชีวิตประจำวัน รายวิชา ง 33106 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6า

แผนการจัดการเรียนรู้ที่  1
เรื่อง  การทำงานในชีวิตประจำวัน  รหัสวิชา  ง  33106
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  6  เวลา  2  คาบ
(คาบที่  1-2)
1.  สาระสำคัญ
     การทำงานเพื่อการดำรงชีวิตให้ประสบผลสำเร็จนั้นจะต้องมีหลัการทำงานอย่างเป็นระบบ
วิธีการทำงานในการดำรงชีวิตเป็นการทำงานที่จำเป็นเกี่ยวกับความเป็็นอยู่ในชีวิตประจำวัน
เช่น  การเลือกใช้  ดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
2.  ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้
     2.1  ตัวชี้วัด
            นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการทำงานเพื่อการดำรงชีวิตประจำวันได้
    2.2  จุดประสงค์การเรียนรู้
            1.  บอกหลักการทำงานเพื่อการดำรงชีวิต  6P ได้
            2.  บอกหลักการทำงานให้ประสบผลสำเร็จได้
            3.  อธิบายความหมายและความสำคัญของงานในชีวิตประจำวันได้ถูกต้อง
            4.  อธิบายความสำคัญของการแต่งกายได้ถูกต้อง
            5.  อธิบายวิธีเลือกใช้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมกับวัย
            6.  อธิบายวิธีดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายให้สะอาดและมีความคุ้มค่า
3.  สาระการเรียนรุ้
     3.1  หลักการทำงาน  6P
     3.2  หลักการทำงานให้ประสบผลสำเร็จ
     3.3  ความหมายและความสำคัญของงานในชีวิตตประจำวัน
     3.4  ความสำคัญของการแต่งกาย
     3.5  วิธีเลือกใช้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมกับวัย
     3.6  วิธีดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
4.  สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
     4.1  ความสามารถในการสื่อสาร
     4.2  ความสามารถในการคิด
     4.3  ความสามารถในการแก้ปัญหา
     4.4  ความสามารถในการใช้ทักษะในชีวิต
     4.5  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5.  คุณลักษณะอันพึงประสงค์
      5.1  รักชาติ  ศาสน์  กษัตริย์
      5.2  ซื่อสัตย์สุจริต
      5.3  มีวินัย
      5.4  ใฝ่เรียนรู้
      5.5  อยู่อย่างพอเพียง 
      5.6  มุ่งมั่นในการทำงาน
      5.7  รักความเป็นไทย
      5.8  มีจิตสาธารณะ
6.  ค่านิยมไทย  12  ประการ
      6.1  มีความรักชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์
      6.2  ซื่อสัตย์   เสียสละ  อดทน
      6.3  กตัญญูต่อพ่อแม่  ผู้ปกครอง  ครูบาอาจารย์
      6.4  ใฝ่หาความรู้  หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและะทางอ้อม
      6.5  รักวัฒนธรรมประเพณีไทย
      6.6  มีศิลธรรมรักษาความสัตย์
      6.7  เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย
      6.8  มีระเบียบ  วินัย  เคารพกฏหมายผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่
      6.9  มีสติ  รู้คิด  รู้ทำ
      6.10รู้จักดำรงตนอยู่อย่างโดยใช้หลักปรัชญาเสรษฐกิจพอเพียง
      6.11มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ  ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ
      6.12คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ส่วนของตนเอง
7.  หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ความพอประมาณ
8.  กิจกรรมการเรียนการสอน
1.  ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาถึงการทำงานในชีวิตประจำวันว่ามีงานอะไรบ้างโดย
สุ่มถามนักเรียนและครูนำรูปภาพการทำงานบ้านและรูปภาพอาชีพต่าง ๆ ให้นักเรียนดู
แล้วสนทนากับนักเรียนโดยใช้คำถามดังนี้
1.1  งานบ้านที่นักเรียนทำเป็นประจำทุกวันได้แก่งานชนิดใดบ้าง.
แนวคำตอบ  เตรียมและประกอบอาหาร  จัดโต๊ะอาหาร  ทำความสะอาดภาชนะ
เครื่องใช้ในครัว  และโต๊ะรับประทานอาหาร  ซักผ้า  เก็บพับเสื้อผ้า  ทำความสะอาด
โตีะเก้าอี้  ทำความสะอาดเตาแก๊ส  เก็บที่นอน ปัดกวาดเช็ดถูพื้นห้องทุกห้องบริเวณบ้าน
รดน้ำต้นไม้  จัดอาหารให้ผู้สุงอายุรับประทาน  ดูแลความสะอาดร่างกายผู้สูงอายุ
ซักเสื้อผ้าเครื่งแต่งกายผู้สูงอายุ  ให้อาหารสัตว์เลี้ยงเช่น  สุนัข  แมว  นกแก้ว  หมู
1.2  การทำงานบ้านในรูปภาพการซักผ้าห่มผ้าปูที่นอนนักเรียนคิดว่าเป็นงานที่ทำประจำวัน
ประจำสัปดาห์  ประจำเดือน
แนวคำตอบ  ประจำเดือน
1.3  การที่นักเรียนทำงานให้ประสบผลสำเร็จนักเรียนคิดว่าควรทำอย่างไร.
แนวคำตอบ  แบ่งงานให้สมาชิกในครอบครัวทำช่วยกัน  วางแผนการทำงานบ้าน และ
เขียนแผนปฏิบัติงานบ้าน
1.4  อาชีพในรูปภาพคืออาชีพใดบ้าง.
แนวคำตอบ  หมอ  พยาบาล  ทหาร  ตำรวจ  นายอำเภอ  ค้าขาย  ชาวนาเกษตกร
ช่างตัดเย็บเสื้อผ้า  ช่างเสริมสวย
1.5  นักเรียนคิดว่าในการทำงานแยกออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ  ได้กี่ประเภท.
แนวคำตอบ  2  ประเภทคือ  งานบ้าน และงานอาชีพ
2.  ครูบอกตัวชี้วัดว่าเมื่อนักเรียนเรียนจบในคาบนี้นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการทำงาน
เพื่อการดำรงชีวิตประจำวันได้
3.  นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่  1  เรื่องการทำงานในชีวิตประจำวัน
4.  ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ  3-4  คนคละความสามารถโดยมีนักเรียนเก่ง  1  คนนักเรียน
ปานกลาง  2  คนและนักเรียนอ่อน  1  คนเลือกประธานและเลขานุการกลุ่มซึ่งเรียกว่า
กลุ่มบ้าน
5.  ประธานแต่ละกลุ่มรับใบความรู้และแจกให้สมาชิกในกลุ่มดังนี้
คนที่  1  รับใบความรู้ที่  1.1  เรื่องหลักในการทำงาน  6P และกระบวนการทำงานให้
ประสบผลสำเร็จและรับใบงานที่  1.1
คนที่  2   รับใบความรู้ที่  1.2  เรื่องความหมายและความสำคัญของงานในชีวิตประจำวัน
และรับใบงานที่  1.2
คนที่  3   รับใบความรู้ที่  1.3   เรื่องวิธีเลือกใช้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมกับวัย
และรับใบงานที่  1.3
คนที่  4  รับใบความรู้ที่  1.4  เรื่องวิธีดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
และรับใบงาานที่  1ง4
6. จัดกลุ่มเชี่ยวชาญโดยให้นักเรียนจากกลุ่มบ้านที่ได้รับใบความรู้ใบงานเดียวกันไปรวม
กลุ่มกันใหม่  ศึกษาทำความเข้าใจและทำกิจกรรมร่วมกกันพร้อมสรุปองความรู้
เรื่องการทำงานในชีวิตประจำวันบันทึกลงในสมุดและใบงานขณะนักเรียนทำกิจกรรม
ครูคอยสังเกตุพฤติกรรมพร้อมชี้แนะข้อสงสัย
7.  ให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มเชี่ยวชาญกลับเข้ากลุ่มเดิมแล้วดำเนินการดังนี้
7.1  ผลัดกันอภิปรายให้สมาชิกในกลุ่มฟังโดยเริ่มจากใบความรู้ที่  ใบงานที่  1.1
ใบความรู้ที่  ใบงานที่  1.2  ใบความรู้ที่  ใบงานที่  1.3  และใบความรุ้  ใบงานที่  1.4
ตามลำดับจนครบทุกคน
7.2  สมาชิกในกลุ่มวักถามข้อสงสัยต่าง ๆและทำความเข้าใจร่วมกัน
8.  ส่งตัวแทนกลุ่มละ  1  คนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนครูและนักเรียนร่วมกัน
สรุปถีงหลักการทำงาน  6P กกระบวนการทำงานให้ประสบผลสำเร็จ  ความหมายและ
ความสำคัญของงานในชีวิตประจำวัน  ความสำคัญของการแต่งกาย  วิธีเลือกใช้เสื้อผ้า
และเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมกับวัย  วิธีดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
ครุสอดแทรกหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเรื่องความพอประมาณโดยครูอธิบายถึง
ความหมายคือความพอดีที่ไม่น้อยจนเกินไปและไม่มากจนเกินไปโดยไม่เบียดเบียน
ตนเองและผู้อื่น  เข่นการทำงานในชีวิตประจำวัน  งานบ้านและงานอาชีพโดยงานบ้าน
แบ่งให้สมาชิกทำทุกคนและแต่ละคนให้ทำพอประมาณไม่มากไม่น้อยจนเกินไป
งานอาชีพจะได้รับค่าตอบแทนโดยแบ่งเป็นค่าอาหาร  เครื่องใช้  พอประมาณ
ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ค่าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็พอประมาณไม่มากไม่น้อย
ทุกอย่างที่ใช้ในชีวิตประจำวันต้องพอประมาณ
9.  นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน (ข้อสอบก่อนเรียนทำในเว็บไซต์ krupaga บันทึก
คะแนนในสมุดเปรียบเทียบคะแนนสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
10.สื่อการเรียนการสอน
1.  รูปภาพการทำงานบ้าน
2.  รูปภาพอาชีพต่าง ๆ
3.  ใบความรู้  ใบงานที่  1.1  เรื่องหลักการทำงาน  6Pและกระบวนการทำงานให้ประสบผล
สำเร็จ
4.  ใบความรู้  ใบงานที่  1.2  เรื่องความหมายและความสำคัญของงานในชีวิตประจำวัน
5.  ใบความรู้   ใบงานที่  1.3  เรื่องวิธีเลือกใช้เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมกับวัย
6.  ใบความรู้   ใบงานที่  1.4  เรื่องวิธีดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
7.  หนังสือการงานอาชีพและเทคโนโลยีชั้นมัธยมศึกษาปีที่  4-6  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
8.  เว็บไซต์  krupaga
11.การวัดและประเมินผล
1.  สิ่งที่จะวัด
1.1  ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้
1.2  พฤติกรรมการปฏิบัติ
1.3  การทำกิจกรรม
2.  วิธีการวัด
2.1  ทำแบบทดสอบ
2.2  สังเกตุพฤติกรรมการปฏิบัติ
2.3  ตรวจผลการทำกิจกรรม
3.  เครื่องมือวัด
3.1  แบบทดสอบ(แบบทดสอบก่อนเรียน  แบบทดสอบหลังเรียนและแบบทดสอบ
ประจำหน่วยการเรียนรู้)
3.2  แบบสังเกตุพฤติกรรม
3.3  แบบบันทึกการทำกิจกรรม
4.  เกณฑ์การวัดผลประเมินผล
4.1  เกณฑ์การวัด
4.1.1  การให้คะแนนแบบทดสอบข้อถูกให้  1  คะแนน  ข้อผิดให้  0  คะแนน
4.1.2  ให้คะแนนพฤติกรรมดังนี้
ดีมากให้     9-10  คะแนน
ดี        ให้     7-8  คะแนน
พอใช้ ให้     5-6  คะแนน
ควรปรับปรุงให้  1-4  คะแนน
4.1.3  ให้คะแนนการทำกิจกรรม  ดังนี้  ข้อถูกให้  1  คะแนน  ข้อผิดให้  0  คะแนน
4.1.4  ให้คะแนนภาระงานงานหน่วยการเรียนรู้ที่  1  ในการทำการจัดเก็บเสื้อผ้า
3  คะแนน  การวางแผนการทำงานบ้าน   2  คะแนน     

4.2  เกรฑ์การประเมินผล
                 4.2.1  นักเรียนได้คะแนนทดสอบไม่น้อยกว่าร้อยละ  50
                 4.2.2  นักเรียนได้คะแนนพฤติกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ  70
                 4.2.3  นักเรียนได้คะแนนกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ  70
                 4.2.4  นักเรียนได้คะแนนผลงานไม่น้อยกว่าร้อยละ  60
12.  ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษา
……………………………………………….
ลงชื่อ                                           ผู้บริหาร/ผู้แทน
          (นายไตรสรณ์  สุวพงษ์)
ตำแหน่ง  ผู้อำนวยการโรงเรียนกุดชุมวิทยาคม

บันทึกผลหลังสอน
1.  ผลการสอน
2.  ปัญหา/อุปสรรค
3.  ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
ลงชื่อ                                      ครูผู้สอน
      (นางผกาวดี  ศรีวะสุทธิ์)
ตำแหน่งครูโรงเรียนกุดชุมวิทยาคม

 
                

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ใบความรู้เรื่องตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6

ใบความรู้เรื่องตัวชีัวัดและสาระแกนกลาง
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
การงานอาชีพและเทคโนโลยี  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6
สาระที่ 1  การดำรงชีวิตและครอบครัว
มาตรฐาน  ง  1.1  เข้าใจการทำงาน  มีความคิดสร้างสรรค์  มีทักษะกระบวนการทำงาน            ทักษะการจัดการ  ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา  ทักษะการทำงานร่วมกัน และทักษะการ
แสวงงหาความรู้  มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการทำงาน  มีจิตสำนึกในการใช้พลังงาน 
ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เพื่อการดำรงชีวิตและครอบครัว
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  4 – 6
ตัวชี้วัด
1.  อธิบายวิธีการทำงานเพื่อการดำรงชีวิต
2. สร้างผลงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ และทักษะการทำำงานร่วมกัน
3.  มีทักษะการจัดการในการทำงาน
4.  มีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทำงาน
5.  มีทักษะในการแสวงหาความรู้เพื่อการดำรงชีวิต
6.  มีคุณธรรมและลักษณะนิสัยในการทำงาน
7.  ใช้พลังงาน  ทรัพยากร ในการทำงานอย่างคุ้มค่าและยั่งยืนเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1.  วิธีการทำงานเพื่อการดำรงชีวิตเป็นการทำงานที่จำเป็นเกี่ยวกับความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน
เช่น
    -หลักการทำงานเพื่อการดำรงชีวิต
    -การเลือกใช้  ดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
2.  ความมคิดสร้างสรรค์  4  ลักษณะประกอบด้วย ความคิดริ่เริ่ม  ความคล่องในการคิด
      ความยึดหยุ่นในการคิดและความคิดละเอียดละออ
     -ทักษะการทำงานร่วมกัน เป็นการทำงานกลุ่ม  ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
     -ทำงานอย่างมีกระบวนการตามขั้นตอนและฝึกการทำงานกลุ่ม  เช่น  การประดิษฐ์
      ของใช้ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย  -หน้าที่และบทบาทของตนเองที่มีต่อสมาชิกในครอบครัว
       โรงเรียนและชุมชน
3.  ทักษะการจัดการ
     -ทักษะการจัดการ  เป็นการจัดระบบงานและระบบคนเพื่อให้การทำงานสำเร็จตามเป้าหมาย
      อย่างมีประสิทธิภาพ  เช่น
      -การดูแลรักษาทำความสะอาด จัดตกแต่งบ้านและโรงเรียน
      -การปลูกพืชขยายพันธุ์พืชและเลี้ยงสัตว์
      -การบำรุงและเก็บรักษา  เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน
      -การดำเนินการทางธุรกิจ
4.  ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทำงาน  มีขั้นตอนคือ  การสังเกต  วิเคราะห์  สร้างทางเลือก  และประเมินทางเลือกเช่น
      -การตัดเย็บและดัดแปลงเสื้อผ้า
      -การเก็บ  ถนอมและแปรรูปอาหาร
      -การติดตั้ง  ประกอบ  ซ่อมแซม  อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ สิ่งอำนวยความสะดวกในบ้าน
และโรงเรียน
5.  ทักษะการแสวงหาความรู้
      -ทักษะการแสวงหาความรู้เพื่อการดำรงชีวิตประกอบด้วย การศึกษาค้นคว้า
      -รวบรวม  สังเกต  สำรวจ  และบันทึก เช่น
        การดูแลรักษาบ้าน
        การเลี้ยงสัตว์
6.  คุณธรรมและลักษณะนิสัย
     -คุณธรรมและลักษณะนิสัยในการทำงานเป็นการสร้างคุณงามความดี และควรฝึกให้ผู้เรียน
       มีคุณภาพที่สำคัญๆ เช่น  ขยัน  อดทน  รับผิดชอบ  และซื่อสัตย์
7.  การใช้พลังงาน  ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืนเป็นคุณธรรมในการทำงาน
สาระที่  4  การอาชีพ
ตัวชี้วัด
1.  อภิปรายแนวทางเข้าสู่อาชีพที่สนใจ
2.  เลือกและใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมกับอาชีพ
3.  มีประสบการณ์ในอาชีพที่ถนัด
4.  มีคุณลักษณะที่ดึต่ออาชีพ
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1.  แนวทางเข้าสุ่อาชีพ
-เตรียมตัวหางานและพัฒนาบุคคลิกภาพ
-ลักษณะความมั่นคงและความก้าวหน้า
-การสมัครงาน
-ดการสัมภาษณ์
-การทำงาน
-การเปลี่ยนงาน
2.  การเลือกและใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมกับอาชีพ
-วิธีการ
-หลักการ
-เหตุผล
3.  ประสบการณ์เป็นอาชีพ
-การจำลองอาชีพ
-กิจกรรมอาชีพ
4.  คุณลักษณะที่ดีต่ออาชีพ
– คุณธรรม
-จริยธรรม
-ค่านิยม

 

 

 

ใบความรู้เรื่องสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและสาระการเรียนรู้ รายวิชา ง 33106 ม. 6 ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ปฐมนิเทศ

ใบความรู้เรื่องสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและสาระการเรียนรู้
รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี  6 เวลา  5  นาที
รหัสวิชา  ง  33106   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  6   ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ปฐมนิเทศ
       สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ซึ่งการพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรุ้ที่กำหนดนั้น  จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะ
สำคัญ  5  ประการดังนี้
        1.  ความสามารถในการสื่อสาร  เป็นความสามารถในการรับและการส่งสาร  มีวัฒนธรรม
ในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด  ความรู้ความเข้าใจ  ความรู้สึกและทัศนะของตนเองเพื่อ
แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม
รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดปัญหาความขัดแย้งต่างๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสาร
หลักเหตุผลและความถูกต้องตลอดจนการเลือกใช้วิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
        2.  ความสามารถในการคิด  เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์
การคิดอย่างสร้างสรรค์  การคิดอย่างมีวิจารณญาณ  และการคิดเป้นระบบ  เพื่อนำไปสู่
การสร้างองความรู้หรือสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม
       3.  ความสามารถในการแก้ปัญหา  เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ
ที่เผชิญได้อย่างถุกต้องต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล  คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ  เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม
       4.  ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต  เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้
ในการดำเนินชีวิตประจำวัน  การเรียนรู้ด้วยตนเองการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง  การทำงาน  และ
การอยุ่ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหา
และความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสมการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม
และสภาพแวดล้อมและการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไมม่พึงประสงค์ที่ส่งผลกระทบตนเองผู้อื่น
       5.  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี  เป็นความสามารถในการเลือกใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆและมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการ
เรียนรู้  การทำงาน  การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้องเหมาะสมและมีคุณธรรม
สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้  ประกอบด้วยองค์ความรู้  ทักษะหรือกระบวนการเรียนรู้และคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ซึ่งกำหนดให้ผู้เรียนทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานจำเป็นต้องเรียนรู้โดยแบ่งออกเป็น  8  กลุ่มสาระการเรียนรู้ดังนี้
    1.  กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสร์  การนำความรู้  ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
ไปใช้ในการแก้ปัญหาการดำเนินชีวิตและศึกษาต่อ  การมีเหตุผลมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์
พัฒนาการคิดอย่างเป็นระบบและสร้างสรรค์
    2.  กลุ่มสาระภาษาไทย  ความรู้  ทักษะและวัฒนธรรมการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร
ความชื่นชม การเห็นคุณค่าภูมิปัญญาไทยและภูมิปัญญาในภาษาประจำชาติ
    3.  กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์  การนำความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ไปใช้ในการศึกษาค้นคว้าหาความรู้และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบการคิอย่างเป็นเหตุเป็นผล
คิดวิเคราะห์  คิดสร้างสรรค์และจิตวิทยาศาสตร์
    4.  กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา   ศาสนาและวัฒนธรรม  การอยู่ร่วมกันในสังคมไทย
และสังคมโลกอย่างสันติสุข  การเป็นพลเมืองดี  ศรัทธาในหลักธรรมของสาสนา การเห้น
คุณค่าของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ความรักชาติและภูมิใจความเป็นไทย
5.  กลุ่มสาระการเรียนรุ้สุขศึกษาแและพลศึกษา  ความรู้ทักษะและเจตคติในการสร้างเสริม
สุขภาพพลานามัยของตนเองและผู้อื่นการป้องกันและปฏิบัติต่อสิ่งต่าง ๆ ที่มีผลต่อสุขภาพ
อย่างถูกวิธีและทักษะในการดำเนินชีวิต
   6.  กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ  ความรู้และศิลปในกการคิดริเริ่ม  จินตนากา  สร้างสรรค์
งานศิลปะ สุนทรียภาพและการเห็นคุณค่าทางศิลปะ
    7.  กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี  ความรู้  ทักษะและเจตคติใน           การทำงาน  การจัดการการดำรงชีวิตการประกอบอาชีพ  และการใช้เทคโนโลยี
    8.  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ  ความรู้ทักษะ เจตคติและวัฒนธรรมการใช้ภาษา
ต่างประเทศในการสื่อสาร  การแสวงหาความรู้และการประกอบอาชีพ

 

ใบความรู้ เรื่องคุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่านิยม รายวิชาการงาน 6 รหัสวิชา ง 33106 ม.6 ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ปฐมนิเทศ

ใบความรู้เรื่อง  คุณลักษณะอันพึงประสงค์และค่นิยม  12  ประการ
รายวิชา  การงานอาชีพและเทคโนโลยี  6  รหัสวิชา  ง  33106
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  6  เวลา  5  นาที
  คุณลักษณะอันพึงประสงค์
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน  มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีลักษณะอันพึงประสงค์เพื่อให้
สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข ในบานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้
        1.  รักชาติ  ศาสน์  กษัตริย์
        2.  ซื่อสัตย์สุจริต
        3.  มีวินัย
        4.  ใฝ่เรียนรู้
        5.  อยู่อย่างพอเพียง
        6.  มุ่งมั่นในการทำงาน
        7.  รักความเป็นไทย
        8.  มีจิตสาธารณะ
    ค่านิยมไทย  12  ประการได้แก่
         1.  มีความรักชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์
         2.  ซื่อสัตย์  เสียสละ  อดทน
         3.  กตัญญูต่อพ่อแม่ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
         4.  ใฝ่หาความรู้  หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม
         5.  รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทย
         6.  มีศิลธรรมรักษาความสัตย์
         7.  เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย
         8.  มีระเบียบ  มีวินัย  เคารพกฏหมาย  ผู้น้อยรู้จักเคารพผุ้ใหญ่
         9.  มีสติรู้ตัว  รู้คิด  รู้ทำ
         10.รู้จักดำรงตนอยุ่โดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง
         11.มีความเข้มแข้งทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ
         12.คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์
   สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
          1.  ความสามารถในการสื่อสาร
          2.  ความสามารถในการคิด
          3.  ความสามารถในการแก้ปัญหา
          4.  ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
          5.  ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
    กลุ่มสาระการเรียนรู้
          1.  ภาษาไทย
          2.  คณิตศาสตร์
          3.  วิทยาศาสตร์
          4.  สังคม  ศาสนา  และวัฒนธรรม
          5.   สุขศึกษาและพลศึกษา
          6.  ศิลปะ
          7.  การงานอาชีพและเทคโนโลยี
          8.  ภาษาต่างประเทศ
    กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
          1.  กิจกรรมแนะแนว
          2.  กืจกรรมนักเรียนลูกเสือ  ยุวกาชาด เนตรนารี  บำเพ็ญประโยชน์
          3.  กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์

 

 

แผนการจัดการเรียนรู้ปฐมนิเทศ รายวิชาการงาน 6 รหัสวิชา ง 33106 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

แผนการจัดการเรียนรู้ปฐมนิเทศ
รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี 6
รหัสวิชา  ง   33106  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  6
เวลา   1  คาบ
สาระสำคัญ
       การจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญครูผู้สอนจะต้องจัดบรรยากาศและ
สิ่งแวดล้อมในการเรียนรู้ให้เหมาะสมและแจ้งให้ผู้เรียนได้รู้ถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด
ผลการเรียนรู้  จุดประสงค์  คำอธิบายรายวิชา  วิธีการเรียนรู้หรือกระบวนการเรียนการสอน
สื่อนวัตกรรมต่าง ๆที่ใช้เพื่อให้เกิดองค์ความรู้  ภาระงานหรือกิจกรรมและผู้เรียนต้องรู้เกณฑ์
การวัดผลประเมินผลเพื่อให้ผุ้เรียนได้เตรียมความพร้อมและเข้าใจถึงกระบวนการจัด
การเรียนรู้ตระหนักถึงความสำคัญที่จะเรียน  การทำงานในชีวิตประจำวัน  เอกลักษณ์ไทย
และการทำงานร่วมกัน  ทักษะการจัดาร  ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทำงาน
สมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในการทำงาน  ทักษะในการแสางหาความรู้
และการอาชีพ
ผลการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
        มีความรู้ความเข้าใจ  มาตรฐานการเรียนรู้  คำอธิบายรายวิชา  ตัวชี้วัด  หน่วยการเรียนรู้
กิจกรรมการเรียนการสอน ภาระงานแต่ละหน่วยการเรียนรู้  แนวทางการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี 6 รหัสวิชา  ง  33106  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
เศรษฐกิจพอเพียง  ค่านิยม  10  ประการ  สมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์และ
ทักษะในการแสวงหาความรู้ในรายวิชา ง 33106  กำหนดเวลาในการส่งงานแต่ละหน่วย
สาระการเรียนรู้
1.  มาตรฐานการเรียนรู้
2.  สาระการเรียนรู้แกนกลาง/โครงการสอนรายวิชา/การกำหนดเวลาที่ใช้แต่ละหน่วยการเรียน
3.  ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้
4. คำอธิบายรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี 6
5.  ชื่อหน่วยการเรียนรู้รายวิชาการงานอาชีพแลเทคโนโลยี  ง  33106
6.  กระบวนการเรียนรู้หรือแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน(การปฐมนิเทศรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี ง 33106โดยครูผกา  ศึกษาในเว็บไซต์  krupaga)
7.  การกำหนดภาระงานแต่ละหน่วยการเรียนรู้รายวิชา  ง 33106
8. การกำหนดการส่งงานแต่ละหน่วยการเรียนรู้รายวิชา  ง  33106
9.  สมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์  ทักษะการแสวงหาความรู้ในรายวิชา  ง 33106
10. ค่านิยม  10  ประการ
11. แนวทางการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้รายวิชาการงาน 6 รหัสวิชา  ง  33106
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  6
12. เศรษฐกิจพอเพียง
13. รายชื่อหนังสือรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี 6 ประกอบการศึกษาค้นคว้าสืบค้น
ข้อมุลต่าง ๆ  ที่เกี่ยวกับวิชานี้
14. เว็บไซต์ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรายวิชาการงาน 6 เว็บไซต์  krupaga
กิจกรรมการเรียนการสอน
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1.  ครูผู้สอนและนักเรียนแนะนำตนเองโดยให้นักเรียนแนะนำตัวทีละคนตามเลขที่หรือ
เรียงลำดับก่อน-หลังตามตัวอักษร  เลขประจำตัวนักเรียนดังหัวข้อต่อไปนี้
1. 1  ชื่อ-สกุล  ชื่อเล่น  เว็บไซต์  เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้
1. 2  ภุูมิลำเนา  หมู่บ้าน  ตำบล   อำเภอ  จังหวัด
1, 3  ผลการเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  4  และ 5  รายวิชาที่ชอบ  รายวิชาที่ไม่ชอบ
พร้อมทั้งอธิบายเหตุผล
1.4  บอกอาชีพในฝันพร้อมเหตุผล
1. 5  เพื่อนสนิทในห้องเรียนจำนวน  2  คน
2.  แนวปฏิบัติ
2.1  ครูแนะนำห้องประจำที่ใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี  6 ถ้าเรียนทฤษฏีใช้ห้องเรียนประจำของนักเรียนหรือลานบูรณาการที่ใช้
อินเทอร์เนตได้ถ้าเรียนภาคปฏิบัตให้เรียนที่ห้องปฏิบัติวิชาการงาน  6 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่  6  ทุกห้องเรียนใช้แนวปฏิบัติเดียวกัน
2.2  แนวปฏิบัติในการใช้ห้องเรียนโดยนักเรียนทุกคนให้ทำความสะอาดห้องเรียน  เช่น
กวาดห้อง  ถูห้อง  เทถังขยะ  เก็บเศษกระดาษใบตองแห้งที่หน้าห้องเรียน  ทำความสะอาด
อ่างล้างมือ  กวาดระเบียงหน้าห้อง  รดน้ำต้นไม้  กรอกน้ำเข้าตู้เย็น  กวาดหยากไหย่บนเพดาน
ฝาผนัง  เช็ดถูเตาแก๊ส  ทำความสะอาดหน้าต่างขอบหน้าต่างเหล็กดัด  ทำความสะอาดโต๊ะครู
ให้นักเรียนเลือกทำงาน ๆ ละ  2  คนและเมื่ทำงานเสร็จให้หัวหน้าห้องประเมินผลการทำงาน
งานสมบูรณเรียบร้อยหรือปรับปรุงลงชื่อการปฏิงานที่หัวหน้าทุกคาบ(  3  นาที)
2.3  ครูแนะนำรายวิชาที่จะเรียนในภาคเรียนนี้ซึ่งเป็นรายวิชาลำดับที่ 6 สาระที่ 1
การดำรงชีวิตและครอบครัวซึ่งประกอบไปด้วย  5  งาน สาระที่  2 การออกแบบและเทคโนโลยี
และสาระที่  4  การอาชีพ อธิบายถึงลักษณะธรรมชาติวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี
ต้องฝึกการทำงานในชีวิตประจำวันการนำความรู้และทักษะไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ขั้นสอน
3.  ให้นักเรียนรับใบความรู้เรื่องมาตรฐานการเรียนรู้แกนกลาง  ตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้
ชื่อหน่วยการเรียนรู้  สาระ การกำหนดเวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
การปฐมนิเทศรายวิชา   ง  33106 โดยครูผกา  คำอธิบายรายวิชา  ภาระงานแต่ละหน่วย
การรียนรู้  การกำหนดส่ง  เศรษฐกิจพอเพียง  ค่านิยม  10  ประการ  สมรรถนะและคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์  การคิดวิเคราะห์  กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนรายวิชา  ง  33106
รายชื่อหนังสือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า  การใช้ เว็บไซต์รายวิชาการงาน เว็บไวต์ krupaga
การวัดผลและประเมินผล  การไม่ผ่านเกรดการประเมินขั้นต่ำ
4.  ครูอธิบายตามใบความรู้ที่แจกให้กับนักเรียนทุกใบความรู้โดยใบความรู้เรื่องการจัด
กิจกรรมการเรียนการสอน
4.1  กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี 6
4.1.1  สอนแบบบรรยาย
4.1,2  สอนโดยใช้กระบวนการปฏิบัติ
4.1.3  สอนแบบบทบาทสมมุติ
4.1.4  การแสดงละคร
4.2  การทำแบบทดสอบก่อนเรียนหลังเรียน  แบบทดสอบประจำหน่วย  แบบทดสอบ
โอเนต  ให้ทำในเว็บไซต์  krupaga
4.3  ใบความรู้ทุกเรื่องให้ศึกษาในเว็บไซต์  krupaga
5.  ครูแนะนำและอธิบายสื่อการเรียนการสอนและนวรรตกรรมที่ใช้ในการเรียนการสอน
รายวิชานี้  เช่น ภาพข่าวเหตุการณ์ในหนังสือพิมพ์  ทีวี  ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาสาระในรายวิชานี้
หนังสือนิตยสารต่าง ๆ เช่น  กุลสตรี  ประดิษฐ์ประดอย  หญิงไทย  อาหารไทย  การถนอมอาหาร  รายการทีวีเกี่ยวกับงานอาชีพ  วีดีทัศน์  หนังสือทุกสำนักพิมพ์
6.  ครูอธิบายการวัดผลและประเมินผลตามใบความรู้ที่นักเรียนได้รับทุกคน
ในรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยีวัดผลทั้ง  K  P  A  และสมรรถนะคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์และประเมินผลด้านความรุ้ทั้ง  7  หน่วยการเรียนรู้ อธิบายอย่างละเอียดใน
ใบความรู้  เรื่องการปฐมนิเทศรายวิชา  ง  33106 โดยครูผกา
ขั้นสรุป
7.  ให้นักเรียนสรุปองค์ความรู้เรื่องรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี  ง  ง  33106  มง 6
โดยสรุปลงในสมุด
สื่อการเรียนการสอน
1.  ใบความรู้เรื่องมาตรฐานการเรียนรุ้แกนกลาง
2.  ใบความรู้เรื่องคำอธิบายรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี 6
4.  ใบความรู้เรื่องตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรุ้รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี  6
5.  ใบความรู้เรื่องกำหนดการสอนรายวิชาการงาน 6 กำหนดเวลาแต่ละหน่วยการเรียนรู้
6.  ใบความรู้เรื่อชื่อหน่วยการเรียนรู้รายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี 6
7.  ใบความรู้เรื่องการปฐมนิเเทศรายวิชาการงาน  ง  33106 โดยครูผกา
8.  ใบความรู้เรื่องกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนรายวิชาการงาน  6
9.  ใบความรู้เรื่องค่านิยม  10  ประการ
10. ใบความรู้เรื่องเศรษฐิจพอเพียง
11. ใบความรู้เรื่องการวัดผลและประเมินผลรายวิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี 6
12. ใบความรู้เรื่องคุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะการแสวงหาความรุ้
13. ใบความรู้เรื่องรายชื่อหนังสือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าในรายวิชาการงาน  6
14. ใบความรู้การกำหนดภาระงานและการกำหนดส่งในแต่ละหน่วยการเรียนรู้
15.  เว็บไซต์  krupaga
การวัดและประเมินผล
1.  วิธีวัด
1.1  สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล
1.2  ทำแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
2.  เครื่องมือวัด
2.1  แบบสังเกตุพฤติกรรมรายบุคคล
2.2  แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
3.  เกณฑ์การวัดผลและประเมินผล
3.1  ผ่านเกณฑ์การประเมินพฤติกรรมรายบุคคลร้อยละ  80  ขึ้นไป
3.2  ผ่านเกณฑ์การทดสอบร้อยละ  60
ข้อเสนอแนะ
………………………
ข้อคิดเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา
…………………………………..

ลงชื่อ                                ผู้บริหาร/ผู้แทน
(นายไตรสรณ์  สุวพงษ์)
ตำแหน่ง  ผู้อำนวยการโรงเรียนกุดชุมวิทยาคม
………………/…………………./…………………….

บันทึกผลหลังสอน
1.  ผลการสอน……………….
2.  ปัญหาและอุปสรรค………….
3.  ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม……………..

    ลงชื่อ…………………………..ครูผู้สอน
                                       (นางผกาวดี  ศรีวะสุทธิ์)
                           ตำแหน่ง  ครูโรงเรียนกุดชุมวิทยาคม